ลงโฆษณาฟรี

ชอเชิญผู้ประกอบการลงโฆษณาธุรกิจขอท่านได้ฟรีรายละเอียดดังนี้
ลงโฆษณาฟรี

5/27/2009

น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋สร้างอาชีพ




น้ำเต้าหู้ อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นิยมกินกันเป็นอาหารเช้าเสริมด้วยปาท่องโก๋ร้อนๆ ทำให้อิ่มท้องสบายๆ เป็นอาหารที่ขายง่าย ใครๆ ก็นิยมดื่มกัน จึงเหมาะสำหรับหาเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างได้รายได้เพิ่มให้กับคนที่กำลังมองหาแหล่งเสริมรายได้ ได้เป็นอย่างด วันนี้จึงนำเรื่องราวเกี่ยวกับน้ำเต้าหู้ มานำเสนอให้กับท่านที่ต้องการอยากทำอาชีพเสริมเกี่ยวกับน้ำเต้าหู้
คุณสุจิตร์ คงสิริพรชัย อดีตเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผ้าเด็กมาก่อน แต่ได้มีความสนใจในธุรกิจน้ำเต้าหู้ จึงได้หันมาศึกษาการทำน้ำเต้าหู้อย่างจริงจัง โดยได้คิดค้นสูตรการทำน้ำเต้าหู้ให้มีความแตกต่าง แปลกใหม่จากน้ำเต้าหู้ที่มีขายอยู่โดยทั่วๆไป เช่น น้ำเต้าหู้ผสมแครอท น้ำเต้าหู้ผสมข้าวกล้องงาดำ นอกจากนี้ยังเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าโดยคิดสูตรปาท่องโก๋ธัญพืชขึ้นมาอีกด้วย เพราะปาท่องโก๋เป็นอาหารที่ต้องกินควบคู่กับน้ำเต้าหู้ โดยได้คิดสูตรปาท่องโก๋ ผสมข้าวโอ๊ตและงาขาวลงไปในแป้งปาท่องโก๋ เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ทั้งทางด้านรสชาติและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อได้สูตรที่ลงตัวแล้ว จึงได้ตั้งชื่อธุรกิจว่า “หมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้” และออกแบบโลโก้ร้านด้วยรูปเด็กหญิงชาวจีน และการแต่งรถเข็นให้มีความเป็นเอกลักษณ์ สะดุดตา

โดยเมนูหลักๆ มี 5 ชนิด ได้แก่ น้ำเต้าหู้ถั่วเหลือง 100 % น้ำเต้าหู้ผสมแครอท น้ำเต้าหู้ผสมข้าวกล้องงาดำ ปาท่องโก๋ธัญพืช และสังขยาใบเตย และได้ทดลองขายจนได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด จึงขยายธุรกิจเป็นแฟรนไชส์น้ำเต้าหู้ โดยตั้งราคาแฟรนไชส์ที่ 35,000 บาท โดยมีอุปกรณ์ครบชุดพร้อมขายได้ทันที และจะมีการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมให้ก่อน 1 วัน โดยแบ่งเป็นสาธิตวิธีทำ และให้ลงมือปฏิบัติได้จริง ราย

ละเอียดการลงทุน
  • ราคาค่าแฟรนไชส์ 35,000 บาท
  • เงินทุนหมุนเวียน 600-1,000 บาท/วัน
  • กำไรต่อวัน 1,000 บาท/วัน
  • ระยะเวลาคืนทุน 1-2 เดือน
เงื่อนไขการลงทุน
1. ทำเลต้องห่างจากเจ้าเดิมไม่ต่ำกว่า 500 เมตร
2. ถั่วเหลือ แป้งปาท่องโก๋ แป้งสังขยา อื่นๆ รวมทั้งชุดอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องการสั่งเพิ่ม ต้องสั่งโดยตรงจากสำนักงานหมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้เท่านั้น
3. ต้องรักษามาตรฐานในการรักษาความสะอาด การใช้วัตถุดิบเพื่อการผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณตามที่กำหนดเท่านั้น
4. กรณีที่ผิดข้อตกลงตามเงื่อนไขที่กำหนด เมื่อมีการตักเตือนเป็นหนังสือถึง 3 ครั้ง แล้วยังเพิกเฉยจะถูกถอดป้ายทันที
อุปกรณ์ที่จะได้รับ
1. รถเข็น 1 คัน
2. เครื่องบด 1 เครื่อง
3. เครื่องปั่น 1 เครื่อง
4. เครื่องกรอง 1 เครื่อง
5. หม้อช่อง (ใส่น้ำเต้าหู้) 2 ใบ
6. กระบวยใหญ่ 1 อัน
7. กระบวยเล็ก(แก้วตักน้ำเต้าหู้ 3 อัน)
8. ที่วางแก้วตักน้ำเต้าหู้ 2 อัน
9. โถใส่เครื่อง 4 ใบ
10. โถใส่งาดำบด 1 ใบ
11. ชุดเตาแก๊สทำน้ำเต้าหู้ 1 ชุด
12. ชุดเตาแก๊สทอดปาท่องก็ + ขาตั้ง 1 ชุด
13. กระทะทอดปาท่องโก๋ 1 อัน
14. ตะแกรงวางปาท่องโก๋ 1 ชุด
15. มีดตัดปาท่องโก๋ 1 อัน
16. ปากคีบปาท่องโก๋ 1 อัน
17. ขอบเหล็ก 1 อัน
18. ตะเกียบทอดปาท่องโก๋ 1 คู่
19. เหล็กวัดปริมาณน้ำเต้าหู้ 1 อัน
20. ชุดถ้วยตวง 1 ชุด
21. ผ้ากันเปื้อนหมวยเกี๊ย + หมวก 2 ชุด
22. ธงหมวยเกี๊ยน้ำเต้าหู้ 1 ผืน
23. แผ่นป้ายราคา 1 แผ่น
24. แผ่นรูปภาพ 1 แผ่น

สูตรน้ำเต้าหู้ทำเองง่ายๆ
ส่วนผสมทำนมถั่วเหลือง :
สูตร 1.ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 360 กรัม เกลือเสริมไอโอดีน ป่น 1 ช้อนชา น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตร 2.ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 500 - 600 กรัม เกลือเสริมไอโอดีนป่น 1 ช้อนชา น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตร 3.ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 1,000 กรัม เกลือเสริมไอโอดีนป่น 2 ช้อนชา น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตร 4.ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวละเอียด 1,000 กรัม เกลือเสริมไอโอดีนป่น 1/2 ช้อนชา น้ำสะอาด 32 ถ้วย ( ประมาณ 8 ลิตร )
สูตรทุกสูตรคล้ายคลึงกัน ต่างกันที่ปริมาณเกลือและน้ำตาลเท่านั้น
ถ้าจะให้มีรสมันเพิ่ม เวลาปั่นให้ใส่ถั่วลิสงคั่ว 1 กำมือ ปั่นรวมกัน สีน้ำนมจะออกสีเหลือง หรือ อาจใช้นมข้น ประมาณครึ่งกระป๋องใส่ลงไป ก็จะได้น้ำนมถั่วเหลืองที่มีสีขาวชวนรับประทาน มีกลิ่นหอมและมีรสมัน เหมือนนมสด
ขั้นตอนและวิธีทำ

1.นำถั่วเหลือง( ใช้ชนิดถั่วเหลืองทั้งเมล็ด ไม่ใช้ถั่วเหลืองซีก) มาคัดเอาสิ่งสกปรก กรวด ทรายดิน ออกให้หมด ล้างให้สะอาด ( เมล็ดที่เสียจะลอยน้ำ คัดทิ้ง ) เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้
2.นำถั่วเหลืองไปคั่วให้หอม แล้วนำถั่วเหลืองที่คั่วไปแช่ในน้ำสะอาด จะใช้วิธีแช่ในน้ำร้อนประมาณ 3 ชั่วโมงก็ได้ตามสะดวก จากนั้นนำมายีเอาเปลือกออก ล้างให้สะอาด เอาขึ้นจากน้ำ สงไว้ การแช่ถั่วเหลืองไม่ควรนานเกิน 2-3 ชั่วโมง ให้สังเกตว่าพอเม็ดถั่วเริ่มพอง อมน้ำเต็มที่ก็จะใช้ได้ ถ้าเราแช่เมล็ดถั่วเหลืองในน้ำนานเกินไปจะทำให้โปรตีนในถั่วจับตัวกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือ โดยให้น้ำท่วมประมาณ 3 เท่าของถั่วเหลือง แช่นานประมาณ 5 - 8 ชั่วโมง
3. แบ่งถั่วเหลืองพอประมาณใส่ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แล้วใส่น้ำให้พอปริ่มๆถั่วเหลือง ปั่นให้ละเอียด แบ่งปั่นไปเรื่อยๆ หรือ บดด้วยโม่หิน จนถั่วเหลืองหมด
4.ตวงน้ำ 2 ลิตร นำไปต้มจนเดือดจัด
5.ระหว่างที่รอ ให้เทน้ำถั่วเหลืองที่ปั่นไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อที่รองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น นำน้ำที่ต้มเดือดเทตามลงไป คนให้เข้ากัน น้ำจะอุ่นพอดี คั้นเอาแต่น้ำนมถั่วเหลืองแบบคั้นกะทิ แล้วแยกกรองกากออกมา
6.เทน้ำถั่วเหลืองที่คั้นไว้ไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อ โดยกรองด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น เสร็จแล้วเติมน้ำส่วนที่เหลือทั้งหมดลงไปในหม้อ คนให้เข้ากัน
7. ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ( ถ้าต้องการใช้กลิ่นใบเตยดับกลิ่นสาปถั่วเหลือง ใส่ใบเตยตอนนี้ ) ต้มด้วยไฟกลาง พอเริ่มจะเดือด ก็ใช้ไฟอ่อน คุมอุณหภูมิไม่ให้เกิน 90 องศาเซลเชียส ( น้ำจะเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเชียส ) คือต้มให้น้ำถั่วเหลืองร้อนแต่ไม่เดือด ขั้นตอนในการต้มใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที ในขณะต้มต้องหมั่นคนอยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นจะไหม้ได้ง่าย พอชิมดูว่าถั่วเหลืองสุกแล้วใส่เกลือครึ่งช้อนชา เคี่ยวต่ออีกประมาณ 5 นาที ปิดไฟหรือยกลง เติมน้ำตาลและเกลือป่น ชิมรสตามชอบ
การทำน้ำเชื่อมเข้มข้น
โดยใช้น้ำตาลทรายเคี่ยวกับน้ำสะอาด ในสัดส่วน 2:1 ตั้งไฟพอให้น้ำตาลละลายหมดก็พอ ไม่ต้องเคี่ยวนาน มิฉะนั้นสีน้ำเชื่อมจะดำไม่น่าทาน
เครื่องปรุงที่ใส่ในน้ำเต้าหู้เพื่อแต่งรสเวลาเสริฟ
ลูกเดือยต้มสุก สาคูเม็ดใหญ่ต้มสุก เม็ดแมงลักละลายน้ำจนพอง วุ้นหั่นเป็นเส้นยาว ลูกบัวต้ม ถั่วแดง ฟักเชื่อมหั่นเป็นชิ้นๆ น้ำเชื่อม ฟรุทสลัด ........ ฯลฯ ( อยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่อยากใส่อะไรก็ไม่ต้องใส่ .............. ตามใจชอบ ) งาอบหรือคั่วโรยหน้า
เวลาเสริฟ
ใส่น้ำเชื่อมและเครื่องปรุงต่างๆ ตามที่ผู้รับประทานต้องการ
แหล่งที่มา http://www.horapa.com/

สูตรปาท่องโก๋
สูตร ๑
เครื่องปรุง ส่วนผสมนี้ได้ 35 ตัว
1.แป้งตราว่าว 1/2 กก.
2.แป้งตราห่าน 1 ขีด
3.แป้งตรากบ 2 ขีด
4.เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำสะอาด 5 ขีด
6.น้ำมันถั่ว 2 กก.
7.เช้าก่า (เชื้อเหม็นหรือแอมโมเนียมคาร์บอเนต) 1 ช้อนโต๊ะ
8.เปี่ยเอี้ย น้อยกว่า 1/2 ช้อนชาเล็กน้อย
วิธีทำ
1. ร่อนแป้งทั้ง 3 อย่าง แล้วผสมเข้าด้วยกัน ตักเก็บไว้ 2 ขีด แล้วนำแป้งผสม ส่วนที่เหลือ ทำเป็นหลุมบนแผ่นกระดาน หรือ ภาชนะแบนราบ
2. นำเช้าก่า เปี่ยเอี้ย เกลือ มาผสมน้ำสะอาด จนละลายเข้ากันดี ก็นำไปเทลงหลุมแป้งที่เตรียมไว้
3. ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันดี วิธีนวดคือ นวดแป้งตลบ ซ้าย-ขวา กลับไป-กลับมา ส่วนบน-ส่วนล่าง กลับไป-กลับมา ระหว่างนวดนี้ ก็โรยแป้งส่วนที่ตักเก็บไว้ เพื่อไม่ให้แป้งติดกระดาน นวดเป็นเวลา 30 นาทีจนแป้งเข้ากันดี ดูได้จาก ถ้าเอามือลูบแล้ว แป้งเรียบไม่สะดุดมือ แล้วจึงนำผ้าขาวบางชุบน้ำพอหมาด คลุมไว้ ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง อย่างมาก 6 ชั่วโมง
4. เมื่อหมักแป้งได้ที่แล้ว เอากระทะใส่น้ำมันถั่วตั้งไฟให้ร้อน ระหว่างนี้นำแป้ง ที่ได้มาคลึงให้ยาวชอบ แล้วตัดเป็นท่อนตามชอบ แล้วนำมาประกบคู่กันโดย ใช้น้ำเปล่าแตะตรงกลาง เมื่อประกบแล้วให้ดังยาวอย่างแผ่วๆ ยาวกว่าเดิมเล็กน้อย แล้วนำลงไปทอด ในน้ำมัน คอยกลับไป-กลับมาพอเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานร้อนๆ
หมายเหตุ เหลือเก็บใส่ตู้เย็น นำกลับมาทอดใหม่อีก
ปาท่องโก๋ สูตร ๒
1.ส่วนประกอบแป้งสาลีตราว่าว 6 กก.
2.ผงฟู 5 ช้อนโต๊ะ
3.ผงโซดาไบคาร์บอเนต 4 ช้อนชา
4.วานิลา(ถ้ามี) 4 ช้อนชา
5.น้ำตาลทรายแดง 1/2 กก.
6.เกลือ 10 ช้อนโต๊ะ
7.แอมโมเนีย 3 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำปูนใส 12 ช้อนโต๊ะ
9.ยีสต์ 3 ช้อนโต๊ะ
10.น้ำมันพืช 12 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างคลุกเข้ากับแป้ง แล้วเติมน้ำพอเหนียว นวดเบาๆทิ้งไว้ 30 นาที นวดรอบสองไม่ต้องนวดนาน แล้วปิดด้วยผ้าชุบน้ำพอหมาดๆคลุมไว้ นำไปทอดไฟกลางๆ รับประทาน
ปาท่องโก๋ สูตร ๓
1.ส่วนผสมแป้งตราฮก 2 กก.
2.น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนตวง
3.น้ำมันพืช 1 ช้อนตวง
4.ผงฟู 1 ช้อนตวง
5.โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนตวง
6.แป้งสาลี(ตราว่าว) 1 ช้อนตวง
7.แอมโมเนียผง 1 ช้อนตวง
8.น้ำ 1 1/2 กก.
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมด มาผสม คนให้เข้ากัน จนเกลือ น้ำตาลละลาย แล้วเทนวดใส่แป้ง นวดไปทางเดียวกันประมาณ 10 นาที พักแป้งไว้สักพัก (5 นาที) กลับแป้งนวดอีกครั้ง แล้วพักไว้ 4 ชั่วโมง แล้วนำผ้าดิบชุบน้ำบิดพอหมาดๆ คลุมไว้ นำไปทอดในน้ำมันพืช เดือดไฟกลางๆ ถ้าเหลือ ก็เก็บใส่ตู้เย็น ไว้ทอดวันต่อๆไปได้อีก
ปาท่องโก๋ สูตร ๔
ส่วนผสม
1. น้ำ 3-4 ถ้วยตวง
2. ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ
5. แอมโมเนีย 1 ช้อนโต๊ะ
6. โซดาไบคาบอเนต 2 เมล็ดถั่วเขียวหรือน้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
7. ผงฟู 1/4 ช้อนชา
8. มาการีน 1 ช้อนชา
9. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
10. แป้งตราต้นสน 1 กิโลกรัม
น้ำมันที่ทอด ควรใช้น้ำปาล์ม เพราะจะทำให้ปาท่องโก๋ไม่มัน (เปิดน้ำมันทอด ไม่ควรเกิน 5 ครั้ง)
วิธีทำ
1. นำส่วนที่ 1-10 ผสมให้เข้ากัน โดยการคนให้ละลายพักไว้
2. นำแป้งมาร่อน
3. นำข้อที่ 1 เทใส่แป้งที่ร่อน คนไปให้เข้ากันลงในแป้งที่ร่อน
4. นวดด้วยฝ่ามือให้เนียนไม่ติดมือ
5. ปิดให้สนิท หมักไว้ 7-8 ชั่วโมงหรือ 12 ชั่วโมงก็ได้
6. ใช้มือชุบแป้งเพื่อหยิบแป้งที่หมักไม่ให้ติดมือ นำมาปิดผ้าไว้ที่โต๊ะ ตัดแป้งมาปั้นให้ยาวๆจับเป็นคู่ๆลงทอดในน้ำมัน ร้อนปานกลาง
แหล่งที่มาhttp://www.siaminfobiz.com/
น้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋เป็นอาหารที่ซื้อง่ายขายคล่อง และไม่ต้องอาศัยเวลามากมายในการขายในแต่ละวัน จึงเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาอาชีพ และเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินลงทุนที่ไม่สูงและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

5/24/2009

ธุรกิจลดความอ้วน






ยุคนี้สาวคนไหนก็อยากมีหุ่นผอม เพรียว สวยงาม การที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจึงทำให้เป็นที่ไม่พึงประสงค์ของทุกคน การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับหลายๆ คน บางครั้งลดแล้ว แต่ก็กลับมาอ้วนยิ่งกว่าเดิม เพราะทำไม่ถูกต้องตามขั้นตอนและวิธีการ ธุรกิจเกี่ยวกับลดน้ำหนักจึงน่าสนใจเป็นอย่างมากในยุคนี้

Slimming &Spa ชื่อนี้ใครก็คุ้นหู เพราะเป็นศูนย์สุขภาพทางเลือกใหม่ ที่มีชื่อเสียงเรื่องการดูแลสุขภาพ จะเห็นว่าดาราที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายท่านที่เข้าไปใช้บริการและได้ผลออกมายืนยันกันอย่างต่อเนื่อง หากท่านใดสนใจธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง นั้นเป็นโอกาสดี เพราะ Slimming & Spa กำลังต้องการผู้ร่วมทุน เพื่อขยายสาขาไปทั่วประเทศ จึงเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเองลักษณะของธุรกิจ เป็นธุรกิจที่ให้ความรู้ ข้อมูลเบื้องต้น และวิเคราะห์เกี่ยวกับสุขภาพ

จุดเด่นของธุรกิจ
- เป็นธุรกิจสถาบันลดน้ำหนักซึ่งกำลังมาแรง สามารถสร้างรายได้ด้วยการดูแลสุขภาพและลดน้ำหนักการใช้เครื่องมือและโภชนาการ
- ลงทุนต่ำ ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงน้อย คืนทุน 3-6 เดือน
- เครื่องมือทันสมัยได้มาตรฐานจากประเทศอิตาลี
- ระบบจัดการดูแลเป็นระบบสากล ควบคุมด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์
- มีพรีเซนเตอร์ที่น่าเชื่อถือได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- มีนักการตลาดที่ชำนาญ และวางแผนระยะยาวได้
- ไม่มีขาดทุน ได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับความทุ่มเทของผู้ลงทุน
- บริหารเวลาทำงานได้เอง มีอิสระในการทำงานสูง เพราะควบคุมง่าย
- เป็นธุรกิจสำหรับการตลาดยุคใหม่ สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยใช้ระบบ network ควบคุม

ลักษณะการให้บริการ
- ธุรกิจเกี่ยวกับสถาบันลดน้ำหนักและความงามครบวงจร
- ใช้หลักโภชนาการในการดูแลสุขภาพและเน้นเครื่องมือทันสมัยจากอิตาลีกลุ่มเป้าหมาย
- กลุ่มผู้ต้องการมีรูปร่างที่ดี และต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง
- ผู้ที่ต้องการมีบุคลิกภาพที่ดีผลประโยชน์ของผู้ร่วมลงทุน
- เครื่องมือจากประเทศอิตาลี มูลค่ากว่า 550,000 บาท
- ผลิตภัณฑ์สำหรับทำทรีทเม้นท์
- วัสดุอุปกรณ์
- ระบบการจัดการทังหมดให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ
- การฝึกอบรมพนักงานทุกตำแหน่ง
- การสำรองเครื่องมือเวลาเครื่องมือมีปัญหาตลอดสัญญา
- รับการดูแลด้านสื่อส่งเสริมการขายกทางการตลาดทุกขั้นตอนตลอดสัญญา

สนใจติดต่อ Call Center 0-2712-7388 www.slimmingandspa.com

5/23/2009



ไอศกรีมทอดธุรกิจเล็ก ๆที่อาจสร้างเงินก้อนโตให้คุณได้ สำหรับคนที่กำลังมองหาอาชีพเสริม ไอศกรีมทอดเป็นอาหารกินเล่นที่แปลกใหม่ ถูกใจใครหลายๆ คน ที่ได้ลิ้มลอง ในวันนี้จะนำเสนอแหล่งอาชีพเสริมมาให้ท่านที่กำลังมองหาอาชีพเสริมทำในช่วงเวลาว่างหรือจะเสริมจากงานประจำเพื่อหารายได้เพิ่มให้กับท่าน

1. Ice-ZY Wonder
เมนูใหม่ล่าสุด อร่อยแบบไม่อ้วน ใครๆ ลองแล้วต้องติดใจ แปลกใหม่ เจ้าแรกและเจ้าเดียว ความอร่อยที่แตกต่าง ด้วยแป้งที่บางกรอบตัวแป้งมีให้อร่อยมากกว่า 10 แบบ ไม่อมน้ำมัน ไม่เลี่ยน ทานได้ทุกเพศทุกวัย แฟรนไชส์ที่ลงทุนน้อย ได้กำไรดี การันตีความอร่อย มีสาขามากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถทำได้***ไอศกรีมทอด ความอร่อยที่แตกต่าง ด้วยแป้งที่บางกรอบ ตัวแป้งมีให้อร่อยมากกว่า 10 แบบ ไม่อมน้ำมัน ไม่เลี่ยน ทานได้ทุกวัย รวยง่ายๆ กับแฟรนไชส์หลักหมื่น เพียง 18,000 บาท เท่านั้น
*** ไอศกรีมอบ เมนูใหม่สุด Hip อินเทรนด์ อร่อยแบบไม่อ้วนที่คุณลองแล้วต้องติดใจกับราคา ชิลๆ เพียง 18,000 บาท เท่านั้น

สนใจติดต่อคุณศศมล ตะนาวศรี 34/347 หมู่บ้านภัสสร 2 ต.คลอง 3 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120โทร. 08-6789-7457, 02-592-2774


2. POPULAR ไอศกรีมทอด
แฟรนไชส์การลงทุนสำหรับผู้มองหาทางธุรกิจที่สร้างรายได้และใช้เงินทุนต่ำ พร้อมเปิดร้านขายได้ทันที

มี 2 รูปแบบการลงทุน
1. 12,000 บาท
2. 32,000 บาท
สิ่งที่แฟรนไชส์จะได้รับ
- คีออส 1.2 เมตร พร้อมป้ายและเมนู
- ภาชนะการขาย 50 ชุด
- อุปกรณ์ในการทอด 1 ชุด
- เตาทอดไฟฟ้า
- สิทธิ์ความเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ในเขตนั้นๆ
- TOPPING- พร้อมโปรโมชั่นพิเศษวันนี้
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่ม.....
ติดต่อ : แฟรนไชส์ ไอศกรีมทอด ป๊อปปูล่าที่อยู่ : 50 ม.11 ต.ดอนยาง อ.เมือง จ.เพชรบุรีมือถือ : 084-384-2014 , 085-404-3977, 089-611-9296

หรือถ้าจะทำเองก็มีสูตรทำไอศกรีมทอดได้เองง่ายๆดังนี้

ส่วนผสม
1. เศษขนมปังบดละเอียด
2. แป้งสาลี
3. ไข่ไก่
4. ไอศกรีมรสใดก็ได้ตามชอบ

วิธีทำ
1. นำเกล็ดขนมปังมาบดละเอียด ผสมกับแป้งสาลี พักไว้ ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน
2. ใช้ที่ตักไอศกรีม ตักไอศกรีมให้เป็นก้อนกลม แล้วนำไอศกรีมลงชุบในไข่ และคลุกกับแป้งที่เตรียมไว้
3. นำไอศกรีมแช่ในตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้แป้งที่เคลือบไว้แข็งตัว
4. นำไอศกรีมลงทอด พอแป้งข้างนอกสุกจึงนำขึ้น
ทดลองทำดูกันได้นะครับ
แหล่งที่มา www.pantip.com

5/18/2009

ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ




ลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ

ฟังแค่ชื่อก็บอกถึงความเป็นเจ้าของได้อย่างชัดเจน นั่นคือคุณ ปู กนกวรรณ บุรานนท์ และดารานัดแสดงตลกชื่อดังของเมืองไทย คุณ เด๋อ ดอกสะเดา ซึ่งทั้งสองคนได้หันมาจับธุรกิจเสริมเพิ่มเติมจากงานแสดง โดยจุดเริ่มต้นของธุรกิจคือได้ไปออกบูธขายสินค้าที่งานกาชาด โดยรับลูกชิ้นของคนอื่นมาขาย ปรากฏว่าได้ผลตอบรับอย่างดีมากๆก็เลยมองว่า ธุรกิจลูกชิ้นเป็นอะไรที่ทำเงิน และน่าสนใจลงทุนจากนั้นจึงหันมาลงทุน ทำเป็นธุรกิจลูกชิ้นอย่างจริงจัง โดยลงทุนซื้อเครื่องจักร ทั้งเครื่องบดหมู เครื่องตีเนื้อหมู เครื่องอัดเม็ดลูกชิ้น โดยกว่าจะกลายมาเป็นลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ ได้อย่างทุกวันนี้ ต้องลองผิดลองถูกมากว่า 1 ปีจึงสามารถคิดสูตรลูกชิ้น สูตรเฉพาะของตัวเองขึ้นมาได้โดยช่วงแรกหมดเงินลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท

จุดเด่นของลูกชิ้นหมู ปู-เด๋อ คือเป็นลูกชิ้นหมูแท้ๆไม่มีส่วนผสมของแป้งเลย ไม่มีผงชูรส ไร้สารกันบูด มีความเหนียวนุ่ม รสชาติแสนอร่อย ใครลองชิมแล้วต้องติดใจกลับมาซื้ออีกหลายๆครั้ง นอกจากนี้น้ำจิ้มที่กินคู่กันก็ยังอร่อยไม่แพ้กันโดยได้รับสูตรมาจากศูนย์ฝึกอาชีพมติชน ซึ่งให้คำแนะนำปรึกษา จึงทำให้ได้น้ำจิ้มที่อร่อยลงตัว โดยใช้ส่วนผสมมากถึง 16 อย่าง โดยคัดแต่ของดีมีคุณภาพเท่านั้น ทุกวันนี้กลุ่มลูกค้าให้การตอบรับอย่างดีเกินคาด ยอดการผลิตมากกว่า 1 ตัน/วัน โดยช่องทางการจำหน่าย จากการออกงานจัดบูธ ตามงานแสดงสินค้าและการออกสื่อต่างๆทำให้ได้ลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆนอกจากนี้

สำหรับท่านใดที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณปูยังคิดรูปแบบการลงทุนด้วยงบเพียง 3,500 บาทเท่านั้นซึ่งถูกมากๆ ปัจจุบันมีการส่งลูกชิ้นให้กับผู้จำหน่าย สามารถนำไปขายตามต่างจังหวัดได้โดยผู้ขายออกค่าขนส่งเอง การสั่งขั้นต่ำ 10 กิโลกรัมขึ้นไปส่วนในกรุงเทพ ส่งให้ฟรี จะมีทีมงานขนส่งให้ถึงที่ ลูกชิ้นสามารถเก็บได้นานเกิน 7 วัน ความสำเร็จในวันนี้มาจาความเอาใจใส่เรื่องขั้นตอนการผลิตและรสชาติที่อร่อย ซึ่งในอนาคตต้องมาการคิดค้นลูกชิ้นสูตรต่างออกมาอย่างแน่นอน

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่โทร 081-916-2667,083-137-0008

เงื่อนไขการลงทุน
  • ไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์ลงทุนเพียง 3,500 บาท เป็นค่าป้ายโลโก้ชื่อร้าน 2,000 บาท และได้ลูกชิ้น 10 กิโลกรัมและน้ำจิ้ม 3 กิโลกรัมน้ำจิ้มรสเด็ด กก.ละ 50 บาท (ลูกชิ้น 4กก/น้ำจิ้ม 1 กก.)นอกจากนี้ยังทำเป็นยำลูกชิ้น น้ำใสได้อีกด้วย

ประเมินรายได้

ลูกชิ้นหมูกิโลกรัมละ 120 บาท

1 กิโลกรัม มี 110 ลูก

เสียบได้ 22 ไม้

ขายไม่ละ 10 บาท ขายได้ 220 บาท

หักต้นทุน 120 บาท

จะได้กำไร 100 บาท

***กำไรสุทธิกิโลละ 100 บาท

สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาอาชีพเสริม การขายลูกเป็นอีกทางเลือกที่ท่านจะมองข้ามไม่ได้เลย เพราะทั้งน่าลงทุนและขายง่าย ไม่ยุ่งยากอะไร

5/17/2009

ทำอาชีพเสริม แฟรนไชส์ ไมโลดิบ

วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่ต้องการมองหาอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองหรือตกงานกำลังมองหางานลองลงทุนค้าขายเล็กๆน้อยก็ดี แฟรนไชส์ ไมโลดิบ ไม่ต้องง้อรายได้จากเงินเดือนประจำ มีอิสระเป็นเจ้านายตัวเองไม่ต้องรอคำสั่งจากใคร ลองแฟรนไชส์ตัวนี้ดูนะครับเป็นแฟรนไชส์เกี่ยวกับ เครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมและกำลังมาแรง







แฟรนไชส์ ไมโลดิบ
ธุรกิจที่ทำง่าย/คืนทุนไว/กำไรดี เริ่มต้นเพียง 9,500.00 บาท ให้สูตรมากกว่า 60 สูตร์ไมโลดิบใช้นมสดเป็นส่วนผสมหลักทำให้รสชาติหอม รับประกันความอร่อยได้เลย ใครได้ลองต้องติดใจ เรามีบริการส่งนมสดให้แฟรนไชส์ถึงบ้านหรือทำนมสดไมโลดิบไว้ขายเองที่นี้คุณ อยู่จังหวัดใหนก็สามารถทำธุรกิจนี้ได้ สนใจอย่ารอช้าทำก่อนได้สิทธิครอบครองทำเลดีก่อนเพราะเรามีการป้องกันการแย่ง ลูกค้าโดยมีระยะห่างของแต่ละเจ้าไม่น้อยกว่า 1 กม.การตอบรับของลูกค้าดีแน่นอน

* ให้อิสระในการประกอบธุรกิจสามารถขยายสาขาเพิ่มได้โดยไม่จำกัดจำนวน
* สามารถกำหนดราคาขายได้เองตามพื้นที่
* ไม่เก็บส่วนแบ่งยอดขายใดๆทั้งสิ้น
* ให้คำปรึกษาด้านการตลาดพร้อมช่วยเหลือด้านการลงทุน / ปัญหาในการทำธุรกิจ
* ช่วยในการจัดหาพนักงานขายในพื้นที่ให้
* ช่วยประชาสัมพันธ์ร้านให้บนอินเตอร์เนตฟรี
* เปลี่ยนแปลงทำเลขายได้ทุกพื้นที่ว่างโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
* ค่าลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ทั่วประเทศเดือนละ 100 บาท ( หนึ่งร้อยบาทต่อเดือน)ชำระรายปี หากธุรกิจไม่ประสบผลสำเร็จไม่เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์
เชียงราย,พะเยา , ลำพูน,เชียงใหม่ไม่คิดค่าจัดส่งแฟรนไชส์บริการจัดส่งทั่วประเทศ

แพ็คเกจ 1 ( P1 ) ราคา 9,500.00 บาท

- บูชวางของ 1 ตัว
- เครื่องปั่น 1 ตัว
- ป้ายเมนูรวม 20 เมนู 4 ผึน
- ไมโลดิบ 1,000 กรัม
- แก้ว 16 ออนส์ จำนวน 100 ใบ
- แก้ว 22 ออนส์ จำนวน 50 ใบ
- หลอดดูด 1 ห่อ
- สอนวิธีทำไมโลดิบ 20 เมนู
- ให้สูตรทำนมไมโลดิบ

แพ็คเกจ 2 ( P2 ) ราคา 15,000.00 บาท
- บูชวางของ 1 ตัว- เครื่องปั่น 1 ตัว
- ป้ายเมนูรวม 30 เมนู 4 ผืน
- ไมโลดิบ 2,000 กรัม
- นมสดฟรี 20 ลิตร
- กลิ่น 30 กลิ่น
- แก้ว 16 ออนส์ จำนวน 100 ใบ
- แก้ว 22 ออนส์ จำนวน 50 ใบ
- หลอดดูด 1 ห่อ
- สอนวิธีทำไมโลดิบ 30 เมนู
- ให้สูตรทำนมไมโลดิบ

แพ็คเกจ 3 ( P3 )ราคา 25,000.00 บาท
- บูชวางของ 1 ตัว
- เครื่องปั่น 1 ตัว
-ป้ายเมนูรวม 60 เมนู 4 ผืน
- ไมโลดิบ 2,000 กรัม
- นมสดฟรี 50 ลิตร
- กลิ่น 60 กลิ่น
- หน้าขนมจำนวน 15 รายการ
- อุปกรณ์ในการขายครบเซต
- แก้ว 16 ออนส์ จำนวน 100 ใบ + ฝาโดม 100 ใบ
- แก้ว 22 ออนส์จำนวน 50 ใบ + ฝาโดม
- หลอดดูด 1 ห่อ
- ได้รับสิทธิในการขยายแฟรนไชส์ในเขต/อำเภอแบบไม่จำกัดจำนวน
- รับผลตอบแทนขยายงาน 5 % ของราคาแพ็คเกจในเขตตัวเอง
- รับผลตอบแทนขยายงาน 1 % ของราคาแพ็คเกจในจังหวัดตัวเอง
- สอนวิธีทำไมโลดิบ 60 เมนู
- ให้สูตรการทำไมโลดิบ
สนใจติดต่อ ราคา : 9,500 บาท

สนใจติดต่อคุณ : อาทร ได้ที่ โทร: 081-6811143 หรือที่ http://www.milodibkiatniyom.com/
สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่ก็น่าสนใจนะครับลองติดต่อสอบถามกันดูได้

5/16/2009

แฟรนไชส์ เอราวัณทองม้วนสด


แฟรนไชส์ เอราวัณทองม้วนสดทองม้วนสด
เป็นของฝากยอดนิยมของคนที่มาเที่ยวเมืองกาญจนบุรี เพราะเป็นขนมที่อร่อยขึ้นชื่อมากอีกชนิดหนึ่ง ที่คนนิยมกินกันมาก แต่ในวันนี้ถ้าอยากกินทองม้วนสดไม่ต้องเดินทางไกลมาถึงเมืองกาญจน์ฯอีกแล้วเพราะมีแฟรนไชส์ซึ่งได้รับสูตรดั้งเดิมจากเมืองกาญจน์ฯและได้รับการพัฒนาปรับปรุงจนมีเอกลักษณ์และรสชาติที่หวานมัน เหนียวนุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ทองม้วนสด ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงยุค วิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 40 โดย คุณปฐมภพ หรรษคุณาชัย อดีตผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งโดนปลดออกจากงานในช่วงนั้นได้ผันตัวเองออกมาทำธุรกิจค้าขายและได้สนใจทดลองคิดค้นปรับปรุงต่อยอดทองม้วนสดสูตรดั้งเดิมจนได้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใช้ชื่อว่า " เอราวัณทองม้วนสด" โดยช่วงแรกทดลองใส่ท้ายรถออกขายตามสถานราชการและแหล่งชุมชนต่างๆซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากๆทำให้คิดต่อยอดทางธุรกิจทำเป็นระบบรูปแบบแฟรนไชส์ ในปี 2545 เอราวัณทองม้วนสดมีจุดเด่นอยู่ที่มีส่วนผสมที่เป็นธัญพืช วัตถุดิบหลักจะอยู่ที่เนื้อมะพร้าวอ่อน โดยลูกค้าแฟรนไชส์สามารถนำส่วนผสม เผือก ฟักทอง ใบเตย มาผสมกับน้ำแป้งตามสัดส่วนที่กำหนดเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยลงตัว นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เป็นทองม้วนกรอบ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกบริโภคและมีความหลากหลายทั้งรูปแบบ ทองม้วนพับ ทองม้วนจีบ รสชาติ เค็ม หวานมัน ใบเตย ชาเขียว กล้วยหอม เพื่อวางขายควบคู่กับทองม้วนสด ปัจจุบัน มีแฟรนไชส์มากกว่า 55 แห่ง แต่ละแห่งได้รับการตอบรับดีมาก บางแห่งเจ้าของต้องขอเปิดเพิ่มอีกหลายสาขา ด้วยทนเพียง 500 บาทก็สามารถสร้างรายได้ถึง 9,000-10,000 บาทต่อเดือนให้กับผู้ลงทุน เนื่องจากกำไรที่ได้จะได้มากถึง 60-70% เลยทีเดียว บางสาขาทำกำไรได้ถึงแสนบาทต่อเดือน
รายละเอียดการลงทุน
  • ราคาค่าแฟรนไชส์ 35,000 บาท
  • ระยะคืนทุน 3-6 เดือนขึ้นอยู่กับทำเล
  • เงินทุนหมุนเวียน 500 บาท/วัน
  • จุดเด่นของแฟรนไชส์ลงทุนต่ำ ใช้พื้นที่น้อยในการทำงาน 2-3 ตารางเมตร สินค้าขายง่ายคู่แข่งน้อย เป็นสินค้าที่ยังไม่มีขาในหลายจังหวัดเงื่อนไขการลงทุน
  • ระยะสัญญา 3 ปี ค่าสงเสริมการตลาด 2 %จากยอดขายต่อเดือน (เฉพาะเดือนที่มีการส่งเสริมการตลาด)
สนใจติดต่อสอบถามที่
คุณ ปฐมภพ หรรษคุณาชัย 167/116 หมู่ 8 หมู่บ้าน มั่งมีซิตี้ ซอยคลองหนอง ถนนสุขาภิบาล 1 บางแค กรุงเทพฯ 10160 โทร 081-495-0158,02-802-3486 แฟกซ์ 02-802-6132
ท่านใดสนใจอยากทำธุรกิจแฟรนไชส์ทองม้วนสดเอราวัณ ก็ลองติดต่อสอบถามดูได้ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับท่านอีกช่องทาง เป็นกำลังใจให้ครับ

5/14/2009

สถาบันสอนการซักรีดอบรีด


ELS สถาบันสอนการซักอบรีด

ธุรกิจซักอบรีด เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ ได้ดีอีกอย่าง เพราะการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันนี้ เวลาเป็นเรื่องสำคัญหลายคนไม่ค่อยมีเวลา ซัดผ้ารีดผ้า เพราะงานที่ยุ่งวุ่นวาย หรือต้องการมีเวลาพักผ่อนสำหรับท่านที่สนใจอยากเปิดร้านซักอบรีด อย่าเพิ่งมองข้ามรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆที่ท่านยังไม่รู้เกี่ยวกับการเปิดร้านซักอบรีด

บริษัท อีแอลเอส ลอนดรี เซอร์วิส จำกัด (ELS) เป็นสถาบันแรกที่เปิดสอนการซักอบรีดและซักแห้งเพื่อประกอบธุรกิจอย่างมืออาชีพ เปิดสอนมาแล้วกว่า 40 รุ่น เพื่อให้ความรู้สำหรับการนำไปประกอบวิชาชีพหรือวางแผนในธุรกิจซักอบรีด ELS เปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่ปี 2541 เริ่มจากนักเรียนไม่กี่คน ปัจจุบันนี้ คอร์สละประมาณ 30-40 คน คอร์สอบรมของสถาบันนี้ มีคุณภาพเพราะว่าเป็นบริษัทในเครือ และบริหารงานโดย บริษัท เพ็นเค อินเตอร์ เทรดดิ้ง จำกัดซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าและจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและเกี่ยวกับงานซักอบรีดครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง อย่าง elvira,SMEG มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการร้านซัก อบรีดกว่า 10 ปี เปิดรับผู้อบรมคอร์สล่ะ 30-35 คน เนื่องจากคอร์สเรียนมีทั้ง ทฤษฎีและปฏิบัติ ส่วนคอร์สรีดผ้าอย่างมืออาชีพนั้น รับเพียง 15 คนเพราะต้องการให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติกันอย่างทั่วถึง โดยใช้ผู้สอน 1 ท่าน/ผู้เรียน 2 คนเพื่อให้ผู้เรียนได้รับเทคนิคจากผู้สอนแบบ ตัวต่อตัว สำหรับคอร์สที่
เปิดสอนประจำทุกเดือนได้แก่
1. คอร์สอบรมเชิงปฏิบัติการซักอบรีด สำหรับเจ้าของกิจการ หรือผู้ที่สนใจอยากเปิดร้าน ซักแห้ง ซักอบรีด โดยตั้งแต่ความรู้ขั้นพื้นฐาน ทางด้านการซักรีดผ้า จนถึงขั้นเปิดเป็นกิจการได้ เช่น เทคนิคการเปิดร้าน ซักอบรีด หรือซักแห้ง วิธีการรับผ้าและการทำงานในร้านซักรีด ความรู้เกี่ยวกับเส้นใย วิธีเช็คผ้า การขจัดรอยเปื้อนต่างๆ วิธีการรีดผ้า ด้วยเครื่องรีดผ้า และเตารีดไอน้ำ วิธีการรีดให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าแต่ละชนิด วิธีลงแป้ง การซักแห้ง การอบผ้าไหม ค่าอบรมอยู่ที่ 5,500 บาท ระยะเวลาเรียน 2 วัน เรียนเสาร์-อาทิตย์ รวมเอกสารประกอบการเรียนและอาหารว่างและอาหารกลางวัน ทำเวิร์คช็อปไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและยังมีขุดเคมีภัณฆ์ไปให้ทดลองใช้และสามารถเป็นสมาชิก ELS Member Club 1 ปี

2. คอร์สซักรีด อย่างมืออาชีพ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้การซักรีดแบบมือ อาชีพ ด้วยมาตรฐานระดับโรงแรม โดยมีการปรับพื้นฐาน และสร้างความมั่นใจในการรีดผ้า เนื้อการอบรม เช่น เทคนิคการรีดผ้าชนิดต่างๆ และการลงแป้ง ฯลฯ ราคาการอบรม คอร์สละ 4,500 บาท ระยะเวลาเรียน 2 วัน เรียนเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ ซึ่งการเรียนคอร์สต่างๆนั้นจะเริ่มต้นด้วยการเรียน ภาคทฤษฎีก่อน 2-3 ชั่วโมง จากนั้นจึงจะหัดรีดผ้าชนิดต่างๆ นักเรียนแต่ละคนจะได้รับการแนะนำเฉพาะรายไปเพื่อให้เรียนรู้และเข้าใจได้เร็ว นอกจากนี้แล้วยังมีคอร์สเรียนพิเศษ 20 วัน รับนักเรียนคอร์ส ละไม่เกิน 3 คนพี่เลี้ยงคอยประกบเป็นรายตัวโดยจะฝึกเหมือนคุณเป็นเจ้าของร้าน แต่ต้องทำงานเสมือนพนักงานทั่วไปโดยจะทำทุกอย่าง พี่เลี้ยงจะคอยดูแลตลอด เรียนรู้การแก้ไขปัญหาหน้าร้าน การรับลูกค้า ซึ่งคอร์สนี้จะปรับเข้ากับตัวผู้เรียนแต่ละรายเมื่อเรียนจบแล้วผู้เรียนยังสามารถขอคำปรึกษาแนะนำต่างๆได้และนำแบบแปลนร้านมาให้ดูเพื่อการตกแต่งร้านได้ มีใบประกาศรับรองผู้ที่สำเร็จการศึกษาทุกคน

สนใจอยากเปิดร้านซักอบรีดลองติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
บริษัท อีแอลเอส ลอนดรี เซอร์วิส จำกัด 988-990-992 ถ.สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทร 02-394-2315,02-394-0186 ต่อ ELS หรือที่ www.elsdryclean.com

5/09/2009

โรงเรียนเสริมสวย แหล่งสร้างอาชีพ

โรงเรียนเสริมสวย แหล่งสร้างอาชีพธุรกิจร้านเสริมสวยเป็นธุรกิจยอดนิยมและก็ยังเชื่อว่ามีอีกหลายๆคนอยากมีร้านเสริมสวยเป็นของตัวเอง ธุรกิจความสวยความงามอยู่คู่กับผู้หญิงมานาน แต่การจะเปิดร้านเสริมสวยได้นั้นต้องมีความรู้ความสามารถโดยผ่านการเรียนรู้และมีประสบการณ์มาพอสมควรจึงจะสามารถทำธุรกิจนี้ได้ วันนี้นำแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่เรียนเสริมสวยมาให้ลองพิจารณา

โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์
สถาบันสอนวิชาชีพเสริมสวยที่ยืนหยัดผลิตช่างเสริมสวยมาแล้วกว่า 34 ปี ปัจจุบันโรงเรียนเสริมสวยคุณโจมีสาขามากกว่า 14 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี พัทยา หาดใหญ่ ฯลฯ ปัจจุบันผลิตช่างเสริมสวยออกไปแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 50,000 คน อ.กานต์รวี เอี่ยมชมนาค กรรมการผู้อำนวยการ โรงเรียนเสริมสวย คุณโจ แอนด์ แซคส์ จุดเด่นซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้โรงเรียนเสริมสวยคุณโจได้รับความนิยมจากบรรดาสาวๆ ทั่วประเทศว่า ทางโรงเรียนมีหลักสูตรการสอนที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรพื้นฐานก็จะครอบคลุมความรู้เกี่ยวกับซาลอนทุกด้าน ซึ่งงานเสริมสวยเป็นงานที่ต้องมีความทันสมัย ทางโรงเรียนจึงสร้างจุดเด่นในเรื่องของแฟชั่นเข้ามาผสมผสานด้วย และอีกประการที่สำคัญก็คือเราคิดค่าเรียนไม่แพง ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะผลิตช่างเสริมสวยมืออาชีพสู่วงการและสร้างโอกาสให้กับคนทุกระดับชั้นได้เข้าสู่อาชีพเสริมสวยที่ตลาดเติบโตอย่างมาก นักเรียนที่จบจากที่นี่ไปจะมีพื้นฐานที่แน่นและสามารถพัฒนาการออกแบบต่างๆ ตามกระแสแฟชั่นได้เป็นอย่างดี โรงเรียนจะมีการส่งอาจารย์ และทีมงาน ไปดูงานที่ต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ เพราะจะเป็นการอัพเดทแฟชั่นทรงผม และเป็นการติดตามสถานการณ์ธุรกิจร้านเสริมสวยในต่างแดนด้วย สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์ นั้น เรียกได้ว่ามีให้เลือกหลากหลาย และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่สนใจในอาชีพเสริมสวยได้ทุกระดับ โดยผู้ที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเข้ามาเรียนในคอร์สเต็มหลักสูตร ซึ่งเป็นคอร์สที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะหลักสูตรนี้จะสามารถเรียนได้ทุกวิชา เลือกเรียนวันไหนก็ได้และเข้ามาเรียนและฝึกฝนฝีมือกับทางสถาบันได้ตลอด หลักสูตรนี้จะใช้เวลาเรียนนานกว่า 180 วัน มากกว่า 800 ชั่วโมง

ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำผม ทั้งผมผู้หญิงและผมผู้ชาย เริ่มกันตั้งแต่พื้นฐานการสระ เซ็ท ตัด การซอยแบบต่างๆ ด้วยมีดโกน กรรไกรและปัตตาเลี่ยน การเกล้าผม การย้อมสี โกรก กัดสีผม การบำรุงรักษาและแก้ปัญหาเส้นผมที่เสีย การสวมใส่วิกและแฮร์พีทแบบต่างๆ รวมไปถึงการแต่งหน้า นวดหน้า ลอกหน้า รักษาสิว แต่งเล็บรวมทั้งการลงทุนทำธุรกิจร้านเสริมสวย และการบริหารจัดการภายในร้าน เพื่อให้ผู้มาเรียนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ทันทีที่เรียนจบ เขาจะรู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ลงทุนเท่าไหร่ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ไหน รวมถึงกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จมีอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรสำหรับผู้ที่เคยผ่านงานด้านทำผมมาบ้างแล้วและต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถออกแบบทรงผมได้ตามแฟชั่นทุกยุคทุกสมัย

โดยมีทั้งหลักสูตร 4 เดือน
ค่าเรียน 16,000 บาท

หลักสูตร 2 เดือน
อัตราค่าเรียน 12,000 บาท

หลักสูตร 1 เดือน
ค่าเรียน 10,000 บาท

หลักสูตร 2 สัปดาห์
ค่าเรียน 8,000 บาท

หลักสูตร 1 สัปดาห์
ค่าเรียน 6,000 บาท

หลักสูตรแต่งหน้า-เกล้าผม
ค่าเรียน 3,500 บาท

หลักสูตรแต่งเล็บ
ค่าเรียน 2,500 บาท

ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความต้องการและความชำนาญของแต่ละคน ที่พิเศษก็คือ โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์ ยังได้เปิดแผนกส่งเสริมเสริมสวยและอบรมครู-อาจารย์แห่งแรก เพื่อต่อยอดความรู้ให้เกิดความชำนาญในการออกแบบและตกแต่งทรงผมชั้นนำที่มีชื่อเสียงทัดเทียมต่างประเทศ ด้วยอัตราค่าเรียนเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ซึ่งทุกหลักสูตรที่เรียนจะได้รับประกาศนียบัตรจากทางโรงเรียนเป็นการการันตีความรู้ความสามารถด้วย งานเสริมสวยเป็นงานที่ต้องฝึกฝนด้วยตัวเอง ไม่ใช่รู้เพียงทฤษฏีเท่านั้น ดังนั้นทุกหลักสูตรจึงเน้นภาคปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความคุ้นเคยและชำนาญ นอกจากนี้ที่นี่ยังเน้นการสอนอย่างใกล้ชิดโดยเราจะสอนเป็นรายบุคคล อีกทั้งยังมีหุ่นจริงให้นักเรียนได้ฝึกเยอะมาก ต่างจากที่อื่นที่จะให้เรียนกับหัวหุ่น องค์ประกอบดังกล่าวนี้จึงทำให้นักเรียนทุกคนของที่นี่จบออกไปอย่างมั่นใจและพร้อมที่จะประกอบอาชีพเป็นช่างเสริมอย่างเต็มความภาคภูมิ ผู้เรียนที่จบจากที่นี่ไป 80% จะไปเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเอง และมีบางส่วนที่อยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับร้านทำผมอื่นๆ ก่อน โดยทุกคนที่มาเรียนไม่ต้องกลัวว่าจบไปแล้วจะไม่มีงานทำ ทุกวันนี้มีร้านเสริมสวยทั่วประเทศติดต่อเข้ามาที่โรงเรียนเยอะมากเนื่องจากต้องการช่าง และหากบอกว่าเป็นช่างที่จบจากโรงเรียนคุณโจเขาก็จะมีความเชื่อมั่น ด้วยอัตราการเติบโตทางธุรกิจเสริมสวยที่ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะดีร้ายอย่างไร ธุรกิจเสริมสวยก็ดูจะไม่กระเทือนเลยแม้แต่น้อย จึงนับได้ว่าธุรกิจเสริมสวยเป็นอาชีพที่น่าลงทุนอย่างมาก ซึ่ง อ.กานต์รวี ได้กล่าวถึงธุรกิจเสริมสวยว่า “ธุรกิจร้านเสริมสวยมีความน่าลงทุนหลายประการ การลงทุนก็ไม่สูงมาก อย่างน้อยๆ เพียงมีทุนสัก 30,000 บาท ก็สามารถซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่พร้อมเปิดร้านได้แล้ว ผลตอบแทนก็สูง เพราะการสระ ซอย เซ็ทนั้นแทบจะไม่ต้องลงทุนเลย ใช้ฝีมืออย่างเดียว ส่วนการทำสีผม ดัดผม โกรกผมและอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเคมีนั้นสามารถตั้งราคาสูงได้ขณะที่ต้นทุนเพียง 30-40% เท่านั้น”

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียด
โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์ 2829-2831 ปากซอยลาดพร้าว 101 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2731-3152, 0-2933-7005 www.khunjoeschool.com

ข้อมูล การลงทุนเปิด ร้านเสริมสวย
เปิด ร้านตัดผม ลงทุนแค่ไหน
ร้านตัดผม ร้านทำผม ร้านเสริมสวย เสริมสวย ลักษณะธุรกิจปัจจุบัน ร้านตัดผม ให้บริการ ตัดผม และ เสริมสวย ทั้งบุรุษและสตรีครอบคลุมถึงการ ออกแบบผม ตัดผม สระผม ซอยผม ย้อมผม และการ เสริมสวย อื่นๆ โดยเน้นการ ตกแต่งร้านเข้ากับสมัยนิยม
วิธีการจัดตั้งและเริ่มต้นธุรกิจการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจประเภทบุคคลธรรมดามีลักษณะเป็นกิจการที่มีเจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา คนเดียวหรือหลายคน หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ประเภทไม่จดทะเบียน
ผู้ประกอบธุรกิจร้านตัดผมประเภทบุคคลธรรมดา ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ประเภทนิติบุคคล บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ผู้ประกอบการธุรกิจต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สถานที่ยื่นขอจดทะเบียนกรุงเทพฯ ยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1 – 7 และส่งจดทะเบียนธุรกิจกลาง สำนักทะเบียนธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ต่างจังหวัด ยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ที่ห้างหุ้นส่วนบริษัทมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่

ค่าธรรมเนียม จดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
- ผู้เป็นหุ้นส่วนไม่เกินสามคน 1,000 บาท

- ผู้เป็นหุ้นส่วนเกินสามคน ชำระเพิ่มสำหรับจำนวนในที่เกินอีก คนละ 200 บาท

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด

- จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ 500 – 25,000 บาท

- จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด 5,000 – 250,000 บาท

ภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดา ต้องยื่นขอเป็นผู้มีบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรต่อ สรรพากรพื้นที่ ที่ตั้งของสถานประกอบการ
- ต้องยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีและครึ่งปี (ภ.ง.ด.90 และ 94)
- หากมีรายได้เกิน 1,200,000 ต่อปี ต้องยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ. 30
นิติบุคคลต้องยื่นขอเป็นผู้มีบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรต่อ สรรพากรพื้นที่ ที่ตั้งของสถานประกอบการ
- ต้องยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล ประจำปี และ ครึ่งปี (ภ.ง.ด.50 และ 51)
- หากมีรายได้เกิน 1,200,000 ต่อปี ต้องยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ. 30
ภาษีป้ายผู้ประกอบธุรกิจที่ติดตั้งป้ายใหม่ หรือแสดงป้ายใหม่ จะต้องชำระภาษีป้ายต่อเจ้าพนักงาน ภายใน 15 วัน และจะต้องยื่นชำระภาษีป้ายทุกปีที่ยังติดตั้งป้าย

สถานที่ขออนุญาต
กรุงเทพฯ ยื่นขอ ณ สำนักงานเขตที่ป้ายนั้นตั้งอยู่
ต่างจังหวัด ยื่นขอ ณ สำนักงานเทศบาล หรือสุขาภิบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลซึ่งดูแลพื้นที่ที่ป้ายนั้นติดตั้งอยู่

กฎหมายและระเบียบเฉพาะธุรกิจใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
หากมีการรับจ้างแต่งเล็บ หรือแคะหู สถานที่ขออนุญาต
กรุงเทพฯ ยื่นขอ ณ สำนักงานเขตที่ตั้งสถานประกอบการ
ต่างจังหวัด ยื่นขอ ณ สำนักงานเทศบาล หรือ สำนักงานสุขาภิบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งดูแลเขตพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการ ค่าธรรมเนียม 500 บาท

ใบอนุญาตให้ตั้งหรือใช้สถานที่เป็นที่รับจ้างแต่งผม และให้เป็นผู้รับจ้างแต่งผมสถานที่ขออนุญาต
กรุงเทพฯ ยื่นขอ ณ สำนักงานหรือเขตที่ตั้งสถานประกอบการ
ต่างจังหวัด ยื่นขอ ณ สำนักงานเทศบาล หรือ สำนักงานสุขาภิบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งดูแลเขตพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการ
ค่าธรรมเนียม สถานที่ตัดผม 20 – 200 บาท
ผู้รับจ้างตัดผม 20 บาท

การปิดป้ายแสดงราคาค่าบริการ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศกำหนดให้ธุรกิจ บริการตัดผมและเสริมสวย ต้องปิดป้ายแสดงราคาค่าบริการให้เห็นชัดเจนในที่เปิดเผย ณ สถานที่ตั้ง การฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีกฎและระเบียบด้านสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม สวัสดิการและการคุ้มครองแรงงานที่ต้องถือปฏิบัติ

รายละเอียดการลงทุนค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนเริ่มต้น จะแตกต่างกันตามขนาดและลักษณะของกิจการ

จากข้อมูลเฉลี่ยของการสำรวจการลงทุนเริ่มต้นของผู้ประกอบธุรกิจ จำแนกเป็น

- ตกแต่งอาคาร เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน อัตราส่วนร้อยละ 45

- เครื่องมือและอุปกรณ์ในร้านตัดผม อัตราส่วนร้อยละ 17 ประกอบด้วย เครื่องอบไอน้ำ เครื่องอบผม ไดร์เป่าผม กรรไกรตัดผม ปัตตาเลี่ยน เป็นต้น

- เงินทุนหมุนเวียน อัตราส่วนร้อยละ 38 ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุสำหรับบริการลูกค้า เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า เป็นต้น

อัตราผลตอบแทนทางการเงิน
ขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการ ทำเลที่ตั้ง และความสามารถในการบริหารธุรกิจ ข้อมูลเฉลี่ยจากการสำรวจ ผู้ประกอบการมีอัตรากำไรสุทธิต่อรายรับ ร้อยละ 18.24 กำไรสุทธิต่อเงินลงทุน ร้อยละ 48.07 ต่อปี โดยมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 1.8 ปี

การตั้งราคาและโครงสร้างราคาที่เป็นธรรมปัจจัยการตั้งราคา ประกอบด้วย
- ต้นทุน
- ทำเลที่ตั้ง
- ค่าบริการของร้านตัดผมในระดับเดียวกันในท้องตลาด
โครงสร้างราคา
คำนวณโดย ต้นทุน บวกกับ กำไรที่ต้องการต้นทุนประกอบด้วย
- ต้นทุนผันแปร เช่น ค่าส่วนแบ่งช่าง ค่าวัสดุ แชมพู น้ำยาสระ ย้อมผม
- ต้นทุนคงที่จัดสรร เช่น ค่าเช่า เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง เครื่องมืออุปกรณ์

การบริหาร/การจัดการโครงสร้างองค์กร
ประกอบด้วยงานหลักดังนี้
1. ด้านการบริหาร รับผิดชอบด้านการเงิน บัญชี จัดซื้อ บุคคล ธุรการ ดูแลความสะอาดของร้าน ต้อนรับลูกค้า และบริหารงานทั่วไป
2. ด้านการให้บริการ
2.1 การให้บริการตัดผม แต่งผม ไดร์ผม และอื่นๆ โดยช่างตัดผม
2.2 การให้บริการสระผม โดยช่างหรือผู้ช่วยช่าง หรือพนักงานสระผมพนักงานและการอบรมพนักงาน

พนักงาน
1. พนักงานประจำ เพื่อทำงานทั่วไปด้านการเก็บเงิน ต้อนรับลูกค้า ทำความสะอาด เป็นต้น โดยจำนวนจะขึ้นไปขนาดของร้าน
2. ช่างตัดผม จะมีทั้งพนักงานประจำและพนักงานรายวัน โดยแบ่งเปอร์เซ็นจากค่าบริการที่เรียกเก็บกับลูกค้า
การอบรมพนักงาน
โดยปกติจะไม่มีการฝึกอบรมช่าง แต่จะเน้นการฝึกอบรมด้านการให้บริการ เลือกบุคลากรที่มีบุคลิกภาพที่ดี และมีใจรักด้านบริการ

วิเคราะห์ข้อดี ข้อด้อย โอกาส และอุปสรรคข้อดีและข้อด้อย
ข้อดี
1. เป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน
2. เน้นในด้านความรู้หรือประสบการณ์ด้านตัดผม
3. ลงทุนต่ำ เครื่องมืออุปกรณ์ไม่แพง สามารถหาซื้อง่าย
4. ธุรกิจค่อนข้างมั่นคง มีรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง
ข้อด้อย
1. ช่างฝีมือดีหายาก และอัตราการเปลี่ยนงานสูง
2. ทำเลที่ตั้งที่ดี มีอัตราค่าเช่าสูง ทำให้เป็นภาระต่อผู้ประกอบการ ขนาดกลางและขนาดย่อม

โอกาสและอุปสรรค

โอกาส
1. เป็นบริการที่ประชาชนทุกเพศทุกวัย มีความจำเป็นต้องใช้บริการ
2. ผู้ใช้บริการเน้นความสำคัญกับบุคลิกและการแต่งตัวมากขึ้น ทำให้พิถีพิถันในการเลือกใช้บริการร้านที่สามารถให้บริการที่ดี
3. ร้านขนาดเล็กและขนาดกลาง สามารถตั้งอยู่ย่านชุมชนที่ไม่ใหญ่นัก
4. ชาวต่างชาติไม่สามารถประกอบอาชีพตัดผมได้โดยเสรี

อุปสรรค
1. ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มีผู้ตกงานเป็นจำนวนมาก ทำให้สูญเสียลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
2. มีการแข่งขันสูง เนื่องจากสามารถประกอบกิจการได้โดยง่าย
3. ในย่านที่สำคัญและในศูนย์การค้า หาสถานที่ตั้งยากและอัตราค่าเช่าสูง

ข้อเสนอแนะ
ด้านการบริหารจัดการ
1. ต้องมีความรู้พื้นฐานในธุรกิจให้บริการของตนเอง และติดตามความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
2. ต้องมีความเป็นผู้นำและพื้นฐานความรู้ด้านการบริหารจัดการ
3. ส่งเสริมและให้โอกาสพนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจในลักษณะแบ่งปันผลประโยชน์จากรายได้
4. ให้ความสำคัญกับการสรรหาและฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร
5. ให้ผลตอบแทนและสิ่งจูงใจที่เหมาะสมเพื่อให้แรงกระตุ้นในการปฏิบัติงานของพนักงาน
6. ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการบริหารหรือเสนอความคิดเห็น มีความรักและภักดีต่อองค์กร
7. ดำเนินการให้ถูกต้องต่อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
8. จัดทำแผนธุรกิจที่เหมาะสม ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
9. ต้องให้ความสำคัญและเวลากับการบริหารอย่างใกล้ชิด

ด้านการตลาด
การบริการและสถานที่ให้บริการ

การบริการ
1. ให้บริการที่ดีและเป็นกันเองกับผู้มาใช้บริการ
2. สร้างตราหรือเครื่องหมายเพื่อให้ลูกค้าระลึกถึงและจดจำได้ง่าย
3. สร้างมาตรฐานด้านการให้บริการและอัตราค่าบริการ

สถานที่ให้บริการ
1. ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย, สะอาด และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
2. เลือกทำเลที่ตั้งให้เหมาะสม สะดวกต่อการติดต่อ เดินทางสะดวก

การส่งเสริมการขาย
1. ทำป้ายโฆษณาหน้าสถานบริการให้สะดุดตา
2. ทำโบว์ชัว แผ่นพับ แนะนำบริการ แจกแก่กลุ่มเป้าหมาย

ด้านบัญชีและการเงิน
1. ไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายประจำมากเกินไป
2. มีโครงสร้างเงินลงทุนที่เหมาะสม ไม่ก่อภาระหนี้มากเกินไป
3. บริหารการเงินอย่างเหมาะสมให้ธุรกิจมีสภาพคล่องทางการเงินสูง4. นำกำไรจากการดำเนินงานเป็นเงินทุนสำรองหรือสำหรับการขยายธุรกิจ
5. แยกบัญชีระหว่างธุรกิจและส่วนตัวเพื่อควบคุมและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของธุรกิจได้ถูกต้อง
6. ควรจัดทำงบการเงินให้ถูกต้อง
7. นำระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชีมาช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน

ขอรายละเอียดข้อมูลผ่านเครื่องโทรสาร หรือติดต่อสำนักส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ

โทร 0-2547-5954-5 โทรสาร 0-2547-5954

ตัวอย่าง รายละเอียดเงินลงทุนของธุรกิจร้านตัดผม รายการ จำนวนเงิน(บาท)

ค่าตกแต่งอาคารสำนักงาน 158,000 เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน

- ชุดรับแขก 5,300

- โต๊ะ / เก้าอี้ 4,800

- ตู้เอกสาร / ตู้โชว์ 5,800

- เครื่องปรับอากาศ 52,000

- โทรทัศน์ 11,000

- เครื่องเสียง 8,400

- ตู้เย็น 4,700

- เครื่องโทรศัพท์ 8,600

- เครื่องคิดเลข 600

- เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ 9,200

รวม 110,400

ค่าเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับการให้บริการ

- เครื่องอบผม 12,000

- เครื่องอบไอน้ำ 14,000

- เก้าอี้เสริมสวย 8,300

- เตียงสระผม 4,000

- ไดร์เป่าผม 10,000

- ตู้กระจกเสริมสวย 16,000

- กรรไกรตัดผม 11,000

- แบตเตอร์เลี่ยนไฟฟ้า 2,600

- อ่างสระผม 7,700

- อื่นๆ 12,000

รวม 97,600

เงินทุนหมุนเวียน 221,000

รวมเงินลงทุนทั้งหมด 587,000

ที่มา ประมาณการจากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบกิจการจำนวน 10 ราย ในช่วงเดือน ธันวาคม พ.ศ.2543-มกราคม พ.ศ.2544 และปรับรายการลงทุนซึ่งผู้ประกอบกิจการ ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทุนและมีความจำเป็นต่ำออก

ตัวอย่าง รายละเอียดรายรับ-รายจ่าย ของธุรกิจร้านตัดผม รายการ จำนวนเงิน(บาท)
รายได้ 1,239,000 รายจ่าย

- เงินเดือนพนักงาน 208,800

- ค่าจ้างรายวัน 183,000

- ค่าเช่าสถานที่ 181,920

- ค่าวัสดุสิ้นเปลือง 144,030

- ค่าน้ำประปา 12,120

- ค่าไฟฟ้า 48,120

- ค่าโทรศัพท์ 16,080

- ดอกเบี้ย 6,000

- ค่าภาษีต่างๆ 7,180

- ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 75,840

รวม 916,086

กำไร(ขาดทุน)ก่อนหักภาษีเงินได้ 322,914

หัก ภาษีเงินได้(30%) 96,874

กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 226,040

ที่มา ค่าเฉลี่ยจากผลประกอบกิจการปี พ.ศ.2543 ของผู้ประกอบกิจการจำนวน 10 ราย ซึ่งได้จากการสัมภาษณ์ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ.2543-มกราคม พ.ศ.2544 ตัวอย่าง การคำนวณราคา ผู้ประกอบกิจการร้านตัดผมแห่งหนึ่งลงทุนเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พื้นที่ 70 ตารางเมตร อายุสัญญาเช่า 1 ปี ค่าเช่าเดือนละ 100,000 บาท มีช่างตัดผมให้บริการ 7 คน มีลูกมือ 10 คน และมีรายละเอียดต้นทุนและต้น

ทุนต่างๆ ดังนี้

1. ต้นทุนคงที่
1.1 ต้นทุนคงที่ที่เป็นตัวเงิน (ต่อปี)
(1) ค่าเช่า = 1,200,000 บาท
(2) เงินเดือนพนักงานประจำ = 840,000 บาท
(3) ค่าไฟฟ้า = 120,000 บาท
(4) ค่าน้ำประปา = 60,000 บาท
(5) ค่าโทรศัพท์ = 24,000 บาท
(6) ค่าดอกเบี้ยจ่าย = 60,000 บาท
(7) ค่าป้าย = 2,000 บาท
รวม = 2,306,000 บาท

1.2 ต้นทุนคงที่ที่ไม่เป็นตัวเงิน
(1) ค่าตกแต่งภายใน 300,000 บาท
คิดค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 = 60,000 บาท(2) ค่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน 97,000 บาท
คิดค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 = 19,400 บาท
(3) ค่าเครื่องมืออุปกรณ์ 271,800 บาท
คิดค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 = 54,360 บาท
รวมต้นทุนคงที่ที่ไม่เป็นตัวเงิน = 133,760 บาท
รวมต้นทุนคงที่ทั้งหมดต่อปี = 2,439,760 บาท

2. ประมาณการจำนวนลูกค้าที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการ
ช่างตัดผม 1 คน สามารถให้บริการลูกค้าได้วันละ 10 คน
ช่างตัดผม 7 คน สามารถให้บริการลูกค้าได้วันละ 70 คน
ในเวลา 1 ปี (300 วัน) สามารถให้บริการลูกค้าได้สูงสุด = 300X70 = 21,000 คน
ประมาณการมีลูกค้ามาใช้บริการร้อยละ 90 หรือ = 18,900 คน

3. ต้นทุนคงที่จัดสรรต่อราย = 2,439,760 = 129.09 บาท
18,900

4. ต้นทุนผันแปร (สระซอย)
(1) ค่าแรงงานช่างตัดผมต่อราย = 60 บาท
(2) ค่าวัสดุสิ้นเปลืองต่อราย = 40 บาท
รวมต้นทุนผันแปรต่อราย = 100 บาท

5. ต้นทุนทั้งหมดต่อราย = 129.09+100 = 229.09 บาท

6. ผู้ประกอบกิจการตั้งอัตราค่าบริการโดยให้มีกำไรร้อยละ 20 ของต้นทุนทั้งหมด
= 45.82 บาทราคาให้บริการต่อราย = 229.09+45.82 = 274.91 บาท

7. ผู้ประกอบกิจการตัดสินใจตั้งอัตราค่าบริการสระซอย = 280 บาท/คน/ครั้ง

แหล่งที่มา:www.handbtoday.com

5/06/2009

ร้านนมสด,ขายส่งนมสด


ร้านนม

ธุรกิจอนาคตสดใสธุรกิจขายนมสด เป็นธุรกิจที่อย่ามองข้ามโดดเด็ดขาด ปัจจุบันนี้สถิติคนไทยหันมาดื่มนมและให้ความสนใจกับสุขภาพกันมากขึ้น รวมทั้งนมที่ผลิตในประเทศไทยนั้นมีคุณภาพดีทำให้มั่นใจได้ว่าคนไทยจะได้ดื่มที่มีคุณค่าและคุณภาพเทียบเท่าต่างประเทศ ลองมาดูธุรกิจเกี่ยวกับร้านนมสด หรือขายนมสดกันดูบ้าง เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคุณในยุคที่งานหายากเศรษฐกิจไม่ดีอย่างนี้ ลองเปิดร้านนม หรือขายส่งนมสด อาจจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับคุณอีกทาง

1. แดรี่ฟาร์ม มีความพร้อมทางด้านวัตถุดิบที่มีเกษตรกร กว่า 40 ฟาร์มป้อมนมสดให้ตลอด มีโรงงานระดับมาตรฐาน อย. ,ฮาลาล สำหรับชาวมุสลิม,มาตรฐาน GMP และ Food Safetyจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยไร้สารเคมี นอกจากนี้ยังได้ โอทอป 5 ดาว ติดกัน 3 ปีซ้อน มีระบบแฟรนไชส์ที่เอื้อต่อลูกค้า สามารถคืนแฟรนไชส์ได้หากทำและรู้สึกว่าไม่ชอบ หรือผลกำไรไม่เป็นไปตามที่คาดหวังโดยนมสด มีให้เลือกมากกว่า 12 รสชาติให้ลูกค้าสามารถเลือกดื่มได้ตามความชอบ ทางแดรี่ฟาร์มมีศูนย์ training center เพื่อเป็นร้านต้นแบบให้แฟรนไชส์ซีและพนักงานได้ฝึกอบรมก่อนการขาย ทั้งทางด้านทฤษฏีและปฏิบัติ โดยเน้นเรื่องการดูแลรักษาอุปกรณ์ ความรู้เกี่ยวกับนม การปรุงรสนม การขายการบริการการทำสินค้าเพิ่มเติมที่ผลิตจากนม อาหารที่สามรถนำมาขายคู่กับนม และวิธีการตลาดนอกจุดขายเพื่อเพิ่มรายได้


สนใจติดต่อสอบถาม

คุณ ระเบียบ รัตนธำรง สำนักงานร้านนมสดแดรี่ฟาร์ม ตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี11120 โทร. 02-980-71000,086-500-5420

รายละเอียดการลงทุน

ราคาแฟรนไชส์ 20,000-120,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบ และขนาด

-รุ่นเอื้ออาทร 20,000 บาท

-เป็นซุ้ม คีออส 25,000-45,000 บาท

-เป็นรถพ่วงที่เป็นรถปิคอัพเคลื่อนที่ได้สะดวก ราคาแฟรนไชส์ 120,000 บาทแฟรนไชส์นี้รวมค่าประกันสินค้าและอุปกรณ์ 16,000 บาท จะได้รับคืนเมื่อเลิกกิจการ-ค่าแรกเข้า 10,000 บาท

-ระยะคืนทุน ขึ้นอยู่กับทำเล

2.เต้าฮวยนมสด แดริ-โอไลท์

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยม อย่างต่อเนื่อง ผลิตจากผงเต้าฮวยคุณภาพดี ผสมกับนมผงแท้คุณภาพสูง ทำให้ได้เต้าฮวยเนื้อใสเป็นวุ้นมะพร้าวกับเมล็ดแมงลัก และยังมีวุ้นสาหร่ายผสมอีกด้วยวุ้นมะพร้าวและเมล็ดแมงลักมีประโยชน์ต่อร่างกาย จะช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ ช่วยดูดซึมน้ำตาลและไขมัน เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักเป้าหมายการผลิตคือผลิตและขายส่งให้กับรายย่อย ให้ลูกค้าที่ต้องการมีธุรกิจเป็นขายส่งเป็นของตัวเอง มีการกำหนดเขตการจำหน่ายเพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน สามารถ เริ่มธุรกิจได้ง่ายๆด้วยเงินลงทุนต่ำโดยใช้เงินลงทุนประมาณ 20,000 บาทก็สามารถเริ่มธุรกิจได้ โดยราคาต้นทุนอยู่ที่ 6.60 บาท/ขวด ราคาขายปลีก 10 บาท
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย ติดต่อ บริษัทเดอะ แล็คต้า จำกัด เลขที่ 7/3 ถ.บางพลี-ตำหรุ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โทร. 081-937-8870,086-991-7154,02-755-4530
ท่านใดสนใจอยากลองทำธุรกิจเกี่ยวกับนมสดก็ลองติดต่อสอบถามดูได้นะครับ อาจช่วยเพิ่มรายได้ให้ท่านอีกทาง เป็นกำลังใจให้ครับ