ปอเปี๊ยะสดเป็นอาหารที่ทานง่าย อิ่มท้อง ได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน สามารถทานได้ทั้งเป็นอาหารว่างและอาหารหลัก ผู้ที่อยากควบคุมน้ำหนักก็ทานได้เพราะมีผักเยอะ และทำขายก็ได้อีกต่างหากถ้าคิดจะทำขายต้องมีใจรักในการทำอาหารและค้าขาย สามารถตั้งขายหน้าบ้าน ใช้รถเข็น หรือไปขายที่ตลาดก็ได้ ขายปอเปี๊ยะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 บาท
เครื่องปรุงและส่วนผสม (สำหรับ 100 จาน)
1. หมูตั้ง 1 กก.
2. กุนเชียง 1 กก.
3. ไข่เจียว 25-30 ฟอง
4. เนื้อปู 1.5 กก.
5. แตงกวา 1.5 กก.
6. ต้นหอม ½ กก.
7. พริกชี้ฟ้า 1 กก.
8. ถั่วงอก 4 กก.
9. เต้าหู้ 25 ก้อน
10. แผ่นปอเปี๊ยะ กว้าง 6 นิ้ว
11. หมูสามชั้น 0.5 กก.
12. ซีอิ๊วดำ
13. น้ำตาลปี๊บ
14. โป๊ยกั๊ก อบเชย
15. น้ำส้มสายชูอย่างดี 1 ขวด
1. หมูตั้ง 1 กก.
2. กุนเชียง 1 กก.
3. ไข่เจียว 25-30 ฟอง
4. เนื้อปู 1.5 กก.
5. แตงกวา 1.5 กก.
6. ต้นหอม ½ กก.
7. พริกชี้ฟ้า 1 กก.
8. ถั่วงอก 4 กก.
9. เต้าหู้ 25 ก้อน
10. แผ่นปอเปี๊ยะ กว้าง 6 นิ้ว
11. หมูสามชั้น 0.5 กก.
12. ซีอิ๊วดำ
13. น้ำตาลปี๊บ
14. โป๊ยกั๊ก อบเชย
15. น้ำส้มสายชูอย่างดี 1 ขวด
สูตรน้ำราดปอเปี๊ยะรสเด็ด
ส่วนผสม
1. แป้งหมี่ ½ กก.
2. น้ำ 5 กก.
3. น้ำตาลทราย 1.5 กก.
4. ลูกบ๊วย 20 เม็ด
5. ซีอิ๊วกะให้สีพอสวย
6. งาขาวคั่ว 1 ขีด
7. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม
1. แป้งหมี่ ½ กก.
2. น้ำ 5 กก.
3. น้ำตาลทราย 1.5 กก.
4. ลูกบ๊วย 20 เม็ด
5. ซีอิ๊วกะให้สีพอสวย
6. งาขาวคั่ว 1 ขีด
7. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. บดลูกบ๊วยดองเลือกเอาแต่เนื้อ
2. เอาแป้งหมี่ทั้งหมดมาแช่น้ำ 5 กก. เอากระชอนมากรองพร้อมกับบดแป้งไปด้วย อย่าให้แป้งจับเป็นก้อน
3. เอาส่วนผสมทุกอย่างมาใส่ในกระทะ เปิดไฟแรงก่อนพอเริ่มเดือดก็หรี่เป็นไฟอ่อน เคี่ยวและคนให้เข้ากัน อย่าให้ติดกระทะ อย่าให้เป็นเม็ดแข็ง สังเกตว่าน้ำเริ่มเหนียว ก็ยกลงเทใส่ภาชนะทิ้งไว้
4. ใส่พริกป่นประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากัน รสชาติน้ำจิ้มที่ได้ จะมีสามรสคือ เปรี้ยว หวาน เผ็ด รสกลมกล่อม
5. น้ำจิ้มนี้ต้องทำแบบทิ้งไว้ 1 คืน คือทำวันนี้ แล้วค่อยขายวันรุ่งขึ้น เพื่อให้น้ำจิ้มข้น ซึ่งตอนเช้าก่อนจะขายก็ให้ลอกหน้าของน้ำจิ้มที่ทิ้งไว้ซึ่งจะเกาะกันเหนียวเป็นแผ่นทิ้งไป เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำจิ้มรสอร่อยพร้อมขายได้แล้ว
1. บดลูกบ๊วยดองเลือกเอาแต่เนื้อ
2. เอาแป้งหมี่ทั้งหมดมาแช่น้ำ 5 กก. เอากระชอนมากรองพร้อมกับบดแป้งไปด้วย อย่าให้แป้งจับเป็นก้อน
3. เอาส่วนผสมทุกอย่างมาใส่ในกระทะ เปิดไฟแรงก่อนพอเริ่มเดือดก็หรี่เป็นไฟอ่อน เคี่ยวและคนให้เข้ากัน อย่าให้ติดกระทะ อย่าให้เป็นเม็ดแข็ง สังเกตว่าน้ำเริ่มเหนียว ก็ยกลงเทใส่ภาชนะทิ้งไว้
4. ใส่พริกป่นประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากัน รสชาติน้ำจิ้มที่ได้ จะมีสามรสคือ เปรี้ยว หวาน เผ็ด รสกลมกล่อม
5. น้ำจิ้มนี้ต้องทำแบบทิ้งไว้ 1 คืน คือทำวันนี้ แล้วค่อยขายวันรุ่งขึ้น เพื่อให้น้ำจิ้มข้น ซึ่งตอนเช้าก่อนจะขายก็ให้ลอกหน้าของน้ำจิ้มที่ทิ้งไว้ซึ่งจะเกาะกันเหนียวเป็นแผ่นทิ้งไป เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำจิ้มรสอร่อยพร้อมขายได้แล้ว
วิธีทำพะโล้
1. นำเต้าหู้มาหั่นเป็นชิ้นขนาด 2X6 ซม.แล้วนำมาทอด สุกเหลืองตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
2.ตั้งน้ำพอประมาณ พอน้ำเดือดใส่ซีอิ๊วดำ น้ำตาลปี๊บ หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นไม่ต้องเล็กมาก ตามด้วด้วยเต้าหู้ที่ทอดแล้ว เคี่ยวต่อไปพอให้น้ำพะโล้เข้าเนื้อเต้าหู้จนเหลือน้ำขลุกขลิก
1. นำเต้าหู้มาหั่นเป็นชิ้นขนาด 2X6 ซม.แล้วนำมาทอด สุกเหลืองตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
2.ตั้งน้ำพอประมาณ พอน้ำเดือดใส่ซีอิ๊วดำ น้ำตาลปี๊บ หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นไม่ต้องเล็กมาก ตามด้วด้วยเต้าหู้ที่ทอดแล้ว เคี่ยวต่อไปพอให้น้ำพะโล้เข้าเนื้อเต้าหู้จนเหลือน้ำขลุกขลิก
ต่อไปเป็นการเตรียมเครื่องเคราที่ใช้ในการทำปอเปี๊ยะสด
1. ลวกถั่วงอก แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
2. หมูตั้งหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 5 ซม. ถ้าจะให้อร่อยตามสูตรที่ใช้ประจำ ให้ไปซื้อที่ตลาดเก่าเยาวราช หลังธนาคารไทยพาณิชย์สาขาเยาวราช
3. กุนเชียงนำไปทอดแล้วหั่นตามยาว
4. ทำไข่เจียวแบบบาง คือ นำไข่มาตีรวมกันทั้งไข่ขาวและแดง ตีให้ฟู ตั้งกระทะน้ำมันใช้น้ำมันพืชทากระทะให้ทั่ว เปิดไฟอ่อนๆ พอกระทะร้อน เทไข่ลงไปแล้วตะแคงกระทะ ให้ไข่เจียวกระจายเต็มกระทะเป็นรูปวงกลม และต้องให้บางที่สุด ซึ่งการทอดไข่นี้หากทำแรกๆ อาจจะหนาไป แต่พอชำนาญก็จะได้ไข่เจียวแบบบาง เมื่อทอดไข่เสร็จแล้วให้ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำมาหั่นฝอย
5. เนื้อปู ควรซื้อเนื้อกรรเชียงปู เพื่อให้ได้เนื้อปูเป็นเส้นสวย นำเนื้อปูมาฉีกให้เป็นเส้นเล็กลง
6. แตงกวา ล้าง ตัดหัวท้าย ผ่าซีกตามยาว
7. หั่นพริกสดเป็นแว่นใส่น้ำส้มสายชูไว้ให้ลูกค้าตักเติมตามใจชอบเมื่อเครื่องครบแล้ว ก็ถึงเวลาขาย
1. ลวกถั่วงอก แล้วทิ้งไว้ให้เย็น
2. หมูตั้งหั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 5 ซม. ถ้าจะให้อร่อยตามสูตรที่ใช้ประจำ ให้ไปซื้อที่ตลาดเก่าเยาวราช หลังธนาคารไทยพาณิชย์สาขาเยาวราช
3. กุนเชียงนำไปทอดแล้วหั่นตามยาว
4. ทำไข่เจียวแบบบาง คือ นำไข่มาตีรวมกันทั้งไข่ขาวและแดง ตีให้ฟู ตั้งกระทะน้ำมันใช้น้ำมันพืชทากระทะให้ทั่ว เปิดไฟอ่อนๆ พอกระทะร้อน เทไข่ลงไปแล้วตะแคงกระทะ ให้ไข่เจียวกระจายเต็มกระทะเป็นรูปวงกลม และต้องให้บางที่สุด ซึ่งการทอดไข่นี้หากทำแรกๆ อาจจะหนาไป แต่พอชำนาญก็จะได้ไข่เจียวแบบบาง เมื่อทอดไข่เสร็จแล้วให้ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วนำมาหั่นฝอย
5. เนื้อปู ควรซื้อเนื้อกรรเชียงปู เพื่อให้ได้เนื้อปูเป็นเส้นสวย นำเนื้อปูมาฉีกให้เป็นเส้นเล็กลง
6. แตงกวา ล้าง ตัดหัวท้าย ผ่าซีกตามยาว
7. หั่นพริกสดเป็นแว่นใส่น้ำส้มสายชูไว้ให้ลูกค้าตักเติมตามใจชอบเมื่อเครื่องครบแล้ว ก็ถึงเวลาขาย
เริ่มขายได้เลย
1. นำแผ่นปอเปี๊ยะมาวางแล้วใส่ถั่วงอกลงไปกะให้พอดีว่าม้วนได้ไม่เล็กหรือใหญ่มาก วางตรงกลางแผ่นปอเปี๊ยะ
2. วางเต้าหู้พะโล้ ใส่แตงกวา 2 ชิ้น หมูตั้งและกุนเชียงอย่างละชิ้น ใส่เนื้อปู โรยหน้าด้วยไข่หั่นฝอย
3. ม้วนแผ่นปอเปี๊ยะให้เป็นวงกลม พับปิดหัวปิดท้าย นำมาหั่นใส่จาน ราดหน้าด้วยน้ำจิ้ม แล้ววางต้นหอมไว้ริมจาน
4. ใน 1 จาน ใช้ปอเปี๊ยะ 2 แผ่น หากใส่เนื้อปูคิดจานละ 35 บาท หาไม่ใส่คิดจานละ 25 บาท
สูตรนี้ลูกค้าหลายคนติดใจ ตามมากินกับอาแปะ จนกระทั่งทำงานแล้วก็ยังกลับมากิน คิดดูว่าจะอร่อยแค่ไหน แต่ว่าต้องมีการฝึกทำก่อนที่จะออกไปขายจริงเพื่อให้รสมือคงที่
1. นำแผ่นปอเปี๊ยะมาวางแล้วใส่ถั่วงอกลงไปกะให้พอดีว่าม้วนได้ไม่เล็กหรือใหญ่มาก วางตรงกลางแผ่นปอเปี๊ยะ
2. วางเต้าหู้พะโล้ ใส่แตงกวา 2 ชิ้น หมูตั้งและกุนเชียงอย่างละชิ้น ใส่เนื้อปู โรยหน้าด้วยไข่หั่นฝอย
3. ม้วนแผ่นปอเปี๊ยะให้เป็นวงกลม พับปิดหัวปิดท้าย นำมาหั่นใส่จาน ราดหน้าด้วยน้ำจิ้ม แล้ววางต้นหอมไว้ริมจาน
4. ใน 1 จาน ใช้ปอเปี๊ยะ 2 แผ่น หากใส่เนื้อปูคิดจานละ 35 บาท หาไม่ใส่คิดจานละ 25 บาท
สูตรนี้ลูกค้าหลายคนติดใจ ตามมากินกับอาแปะ จนกระทั่งทำงานแล้วก็ยังกลับมากิน คิดดูว่าจะอร่อยแค่ไหน แต่ว่าต้องมีการฝึกทำก่อนที่จะออกไปขายจริงเพื่อให้รสมือคงที่
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://xn--b3c4bjhb3bcsf6an2ach0o.com/ขายปอเปี๊ยะสด-สูตรอาแปะ/