ลงโฆษณาฟรี

ชอเชิญผู้ประกอบการลงโฆษณาธุรกิจขอท่านได้ฟรีรายละเอียดดังนี้
ลงโฆษณาฟรี

5/09/2009

โรงเรียนเสริมสวย แหล่งสร้างอาชีพ

โรงเรียนเสริมสวย แหล่งสร้างอาชีพธุรกิจร้านเสริมสวยเป็นธุรกิจยอดนิยมและก็ยังเชื่อว่ามีอีกหลายๆคนอยากมีร้านเสริมสวยเป็นของตัวเอง ธุรกิจความสวยความงามอยู่คู่กับผู้หญิงมานาน แต่การจะเปิดร้านเสริมสวยได้นั้นต้องมีความรู้ความสามารถโดยผ่านการเรียนรู้และมีประสบการณ์มาพอสมควรจึงจะสามารถทำธุรกิจนี้ได้ วันนี้นำแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่เรียนเสริมสวยมาให้ลองพิจารณา

โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์
สถาบันสอนวิชาชีพเสริมสวยที่ยืนหยัดผลิตช่างเสริมสวยมาแล้วกว่า 34 ปี ปัจจุบันโรงเรียนเสริมสวยคุณโจมีสาขามากกว่า 14 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี พัทยา หาดใหญ่ ฯลฯ ปัจจุบันผลิตช่างเสริมสวยออกไปแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 50,000 คน อ.กานต์รวี เอี่ยมชมนาค กรรมการผู้อำนวยการ โรงเรียนเสริมสวย คุณโจ แอนด์ แซคส์ จุดเด่นซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้โรงเรียนเสริมสวยคุณโจได้รับความนิยมจากบรรดาสาวๆ ทั่วประเทศว่า ทางโรงเรียนมีหลักสูตรการสอนที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลักสูตรพื้นฐานก็จะครอบคลุมความรู้เกี่ยวกับซาลอนทุกด้าน ซึ่งงานเสริมสวยเป็นงานที่ต้องมีความทันสมัย ทางโรงเรียนจึงสร้างจุดเด่นในเรื่องของแฟชั่นเข้ามาผสมผสานด้วย และอีกประการที่สำคัญก็คือเราคิดค่าเรียนไม่แพง ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะผลิตช่างเสริมสวยมืออาชีพสู่วงการและสร้างโอกาสให้กับคนทุกระดับชั้นได้เข้าสู่อาชีพเสริมสวยที่ตลาดเติบโตอย่างมาก นักเรียนที่จบจากที่นี่ไปจะมีพื้นฐานที่แน่นและสามารถพัฒนาการออกแบบต่างๆ ตามกระแสแฟชั่นได้เป็นอย่างดี โรงเรียนจะมีการส่งอาจารย์ และทีมงาน ไปดูงานที่ต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ เพราะจะเป็นการอัพเดทแฟชั่นทรงผม และเป็นการติดตามสถานการณ์ธุรกิจร้านเสริมสวยในต่างแดนด้วย สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์ นั้น เรียกได้ว่ามีให้เลือกหลากหลาย และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่สนใจในอาชีพเสริมสวยได้ทุกระดับ โดยผู้ที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเข้ามาเรียนในคอร์สเต็มหลักสูตร ซึ่งเป็นคอร์สที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะหลักสูตรนี้จะสามารถเรียนได้ทุกวิชา เลือกเรียนวันไหนก็ได้และเข้ามาเรียนและฝึกฝนฝีมือกับทางสถาบันได้ตลอด หลักสูตรนี้จะใช้เวลาเรียนนานกว่า 180 วัน มากกว่า 800 ชั่วโมง

ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำผม ทั้งผมผู้หญิงและผมผู้ชาย เริ่มกันตั้งแต่พื้นฐานการสระ เซ็ท ตัด การซอยแบบต่างๆ ด้วยมีดโกน กรรไกรและปัตตาเลี่ยน การเกล้าผม การย้อมสี โกรก กัดสีผม การบำรุงรักษาและแก้ปัญหาเส้นผมที่เสีย การสวมใส่วิกและแฮร์พีทแบบต่างๆ รวมไปถึงการแต่งหน้า นวดหน้า ลอกหน้า รักษาสิว แต่งเล็บรวมทั้งการลงทุนทำธุรกิจร้านเสริมสวย และการบริหารจัดการภายในร้าน เพื่อให้ผู้มาเรียนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ทันทีที่เรียนจบ เขาจะรู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ลงทุนเท่าไหร่ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ไหน รวมถึงกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จมีอะไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรสำหรับผู้ที่เคยผ่านงานด้านทำผมมาบ้างแล้วและต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อให้สามารถออกแบบทรงผมได้ตามแฟชั่นทุกยุคทุกสมัย

โดยมีทั้งหลักสูตร 4 เดือน
ค่าเรียน 16,000 บาท

หลักสูตร 2 เดือน
อัตราค่าเรียน 12,000 บาท

หลักสูตร 1 เดือน
ค่าเรียน 10,000 บาท

หลักสูตร 2 สัปดาห์
ค่าเรียน 8,000 บาท

หลักสูตร 1 สัปดาห์
ค่าเรียน 6,000 บาท

หลักสูตรแต่งหน้า-เกล้าผม
ค่าเรียน 3,500 บาท

หลักสูตรแต่งเล็บ
ค่าเรียน 2,500 บาท

ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความต้องการและความชำนาญของแต่ละคน ที่พิเศษก็คือ โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์ ยังได้เปิดแผนกส่งเสริมเสริมสวยและอบรมครู-อาจารย์แห่งแรก เพื่อต่อยอดความรู้ให้เกิดความชำนาญในการออกแบบและตกแต่งทรงผมชั้นนำที่มีชื่อเสียงทัดเทียมต่างประเทศ ด้วยอัตราค่าเรียนเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ซึ่งทุกหลักสูตรที่เรียนจะได้รับประกาศนียบัตรจากทางโรงเรียนเป็นการการันตีความรู้ความสามารถด้วย งานเสริมสวยเป็นงานที่ต้องฝึกฝนด้วยตัวเอง ไม่ใช่รู้เพียงทฤษฏีเท่านั้น ดังนั้นทุกหลักสูตรจึงเน้นภาคปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความคุ้นเคยและชำนาญ นอกจากนี้ที่นี่ยังเน้นการสอนอย่างใกล้ชิดโดยเราจะสอนเป็นรายบุคคล อีกทั้งยังมีหุ่นจริงให้นักเรียนได้ฝึกเยอะมาก ต่างจากที่อื่นที่จะให้เรียนกับหัวหุ่น องค์ประกอบดังกล่าวนี้จึงทำให้นักเรียนทุกคนของที่นี่จบออกไปอย่างมั่นใจและพร้อมที่จะประกอบอาชีพเป็นช่างเสริมอย่างเต็มความภาคภูมิ ผู้เรียนที่จบจากที่นี่ไป 80% จะไปเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเอง และมีบางส่วนที่อยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับร้านทำผมอื่นๆ ก่อน โดยทุกคนที่มาเรียนไม่ต้องกลัวว่าจบไปแล้วจะไม่มีงานทำ ทุกวันนี้มีร้านเสริมสวยทั่วประเทศติดต่อเข้ามาที่โรงเรียนเยอะมากเนื่องจากต้องการช่าง และหากบอกว่าเป็นช่างที่จบจากโรงเรียนคุณโจเขาก็จะมีความเชื่อมั่น ด้วยอัตราการเติบโตทางธุรกิจเสริมสวยที่ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะดีร้ายอย่างไร ธุรกิจเสริมสวยก็ดูจะไม่กระเทือนเลยแม้แต่น้อย จึงนับได้ว่าธุรกิจเสริมสวยเป็นอาชีพที่น่าลงทุนอย่างมาก ซึ่ง อ.กานต์รวี ได้กล่าวถึงธุรกิจเสริมสวยว่า “ธุรกิจร้านเสริมสวยมีความน่าลงทุนหลายประการ การลงทุนก็ไม่สูงมาก อย่างน้อยๆ เพียงมีทุนสัก 30,000 บาท ก็สามารถซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่พร้อมเปิดร้านได้แล้ว ผลตอบแทนก็สูง เพราะการสระ ซอย เซ็ทนั้นแทบจะไม่ต้องลงทุนเลย ใช้ฝีมืออย่างเดียว ส่วนการทำสีผม ดัดผม โกรกผมและอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเคมีนั้นสามารถตั้งราคาสูงได้ขณะที่ต้นทุนเพียง 30-40% เท่านั้น”

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียด
โรงเรียนเสริมสวยคุณโจ แอนด์ แซคส์ 2829-2831 ปากซอยลาดพร้าว 101 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2731-3152, 0-2933-7005 www.khunjoeschool.com

ข้อมูล การลงทุนเปิด ร้านเสริมสวย
เปิด ร้านตัดผม ลงทุนแค่ไหน
ร้านตัดผม ร้านทำผม ร้านเสริมสวย เสริมสวย ลักษณะธุรกิจปัจจุบัน ร้านตัดผม ให้บริการ ตัดผม และ เสริมสวย ทั้งบุรุษและสตรีครอบคลุมถึงการ ออกแบบผม ตัดผม สระผม ซอยผม ย้อมผม และการ เสริมสวย อื่นๆ โดยเน้นการ ตกแต่งร้านเข้ากับสมัยนิยม
วิธีการจัดตั้งและเริ่มต้นธุรกิจการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจประเภทบุคคลธรรมดามีลักษณะเป็นกิจการที่มีเจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา คนเดียวหรือหลายคน หรือห้างหุ้นส่วนสามัญ ประเภทไม่จดทะเบียน
ผู้ประกอบธุรกิจร้านตัดผมประเภทบุคคลธรรมดา ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ ประเภทนิติบุคคล บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ผู้ประกอบการธุรกิจต้องจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
สถานที่ยื่นขอจดทะเบียนกรุงเทพฯ ยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1 – 7 และส่งจดทะเบียนธุรกิจกลาง สำนักทะเบียนธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ต่างจังหวัด ยื่นขอจดทะเบียน ณ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ที่ห้างหุ้นส่วนบริษัทมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่

ค่าธรรมเนียม จดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน
- ผู้เป็นหุ้นส่วนไม่เกินสามคน 1,000 บาท

- ผู้เป็นหุ้นส่วนเกินสามคน ชำระเพิ่มสำหรับจำนวนในที่เกินอีก คนละ 200 บาท

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด

- จดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ 500 – 25,000 บาท

- จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด 5,000 – 250,000 บาท

ภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดา ต้องยื่นขอเป็นผู้มีบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรต่อ สรรพากรพื้นที่ ที่ตั้งของสถานประกอบการ
- ต้องยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีและครึ่งปี (ภ.ง.ด.90 และ 94)
- หากมีรายได้เกิน 1,200,000 ต่อปี ต้องยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ. 30
นิติบุคคลต้องยื่นขอเป็นผู้มีบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรต่อ สรรพากรพื้นที่ ที่ตั้งของสถานประกอบการ
- ต้องยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคล ประจำปี และ ครึ่งปี (ภ.ง.ด.50 และ 51)
- หากมีรายได้เกิน 1,200,000 ต่อปี ต้องยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ. 30
ภาษีป้ายผู้ประกอบธุรกิจที่ติดตั้งป้ายใหม่ หรือแสดงป้ายใหม่ จะต้องชำระภาษีป้ายต่อเจ้าพนักงาน ภายใน 15 วัน และจะต้องยื่นชำระภาษีป้ายทุกปีที่ยังติดตั้งป้าย

สถานที่ขออนุญาต
กรุงเทพฯ ยื่นขอ ณ สำนักงานเขตที่ป้ายนั้นตั้งอยู่
ต่างจังหวัด ยื่นขอ ณ สำนักงานเทศบาล หรือสุขาภิบาล หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลซึ่งดูแลพื้นที่ที่ป้ายนั้นติดตั้งอยู่

กฎหมายและระเบียบเฉพาะธุรกิจใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
หากมีการรับจ้างแต่งเล็บ หรือแคะหู สถานที่ขออนุญาต
กรุงเทพฯ ยื่นขอ ณ สำนักงานเขตที่ตั้งสถานประกอบการ
ต่างจังหวัด ยื่นขอ ณ สำนักงานเทศบาล หรือ สำนักงานสุขาภิบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งดูแลเขตพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการ ค่าธรรมเนียม 500 บาท

ใบอนุญาตให้ตั้งหรือใช้สถานที่เป็นที่รับจ้างแต่งผม และให้เป็นผู้รับจ้างแต่งผมสถานที่ขออนุญาต
กรุงเทพฯ ยื่นขอ ณ สำนักงานหรือเขตที่ตั้งสถานประกอบการ
ต่างจังหวัด ยื่นขอ ณ สำนักงานเทศบาล หรือ สำนักงานสุขาภิบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งดูแลเขตพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการ
ค่าธรรมเนียม สถานที่ตัดผม 20 – 200 บาท
ผู้รับจ้างตัดผม 20 บาท

การปิดป้ายแสดงราคาค่าบริการ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกประกาศกำหนดให้ธุรกิจ บริการตัดผมและเสริมสวย ต้องปิดป้ายแสดงราคาค่าบริการให้เห็นชัดเจนในที่เปิดเผย ณ สถานที่ตั้ง การฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ยังมีกฎและระเบียบด้านสาธารณสุข สิ่งแวดล้อม สวัสดิการและการคุ้มครองแรงงานที่ต้องถือปฏิบัติ

รายละเอียดการลงทุนค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนเริ่มต้น จะแตกต่างกันตามขนาดและลักษณะของกิจการ

จากข้อมูลเฉลี่ยของการสำรวจการลงทุนเริ่มต้นของผู้ประกอบธุรกิจ จำแนกเป็น

- ตกแต่งอาคาร เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน อัตราส่วนร้อยละ 45

- เครื่องมือและอุปกรณ์ในร้านตัดผม อัตราส่วนร้อยละ 17 ประกอบด้วย เครื่องอบไอน้ำ เครื่องอบผม ไดร์เป่าผม กรรไกรตัดผม ปัตตาเลี่ยน เป็นต้น

- เงินทุนหมุนเวียน อัตราส่วนร้อยละ 38 ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุสำหรับบริการลูกค้า เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำประปา ไฟฟ้า เป็นต้น

อัตราผลตอบแทนทางการเงิน
ขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการ ทำเลที่ตั้ง และความสามารถในการบริหารธุรกิจ ข้อมูลเฉลี่ยจากการสำรวจ ผู้ประกอบการมีอัตรากำไรสุทธิต่อรายรับ ร้อยละ 18.24 กำไรสุทธิต่อเงินลงทุน ร้อยละ 48.07 ต่อปี โดยมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 1.8 ปี

การตั้งราคาและโครงสร้างราคาที่เป็นธรรมปัจจัยการตั้งราคา ประกอบด้วย
- ต้นทุน
- ทำเลที่ตั้ง
- ค่าบริการของร้านตัดผมในระดับเดียวกันในท้องตลาด
โครงสร้างราคา
คำนวณโดย ต้นทุน บวกกับ กำไรที่ต้องการต้นทุนประกอบด้วย
- ต้นทุนผันแปร เช่น ค่าส่วนแบ่งช่าง ค่าวัสดุ แชมพู น้ำยาสระ ย้อมผม
- ต้นทุนคงที่จัดสรร เช่น ค่าเช่า เงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และค่าเสื่อมราคาสิ่งปลูกสร้าง เครื่องมืออุปกรณ์

การบริหาร/การจัดการโครงสร้างองค์กร
ประกอบด้วยงานหลักดังนี้
1. ด้านการบริหาร รับผิดชอบด้านการเงิน บัญชี จัดซื้อ บุคคล ธุรการ ดูแลความสะอาดของร้าน ต้อนรับลูกค้า และบริหารงานทั่วไป
2. ด้านการให้บริการ
2.1 การให้บริการตัดผม แต่งผม ไดร์ผม และอื่นๆ โดยช่างตัดผม
2.2 การให้บริการสระผม โดยช่างหรือผู้ช่วยช่าง หรือพนักงานสระผมพนักงานและการอบรมพนักงาน

พนักงาน
1. พนักงานประจำ เพื่อทำงานทั่วไปด้านการเก็บเงิน ต้อนรับลูกค้า ทำความสะอาด เป็นต้น โดยจำนวนจะขึ้นไปขนาดของร้าน
2. ช่างตัดผม จะมีทั้งพนักงานประจำและพนักงานรายวัน โดยแบ่งเปอร์เซ็นจากค่าบริการที่เรียกเก็บกับลูกค้า
การอบรมพนักงาน
โดยปกติจะไม่มีการฝึกอบรมช่าง แต่จะเน้นการฝึกอบรมด้านการให้บริการ เลือกบุคลากรที่มีบุคลิกภาพที่ดี และมีใจรักด้านบริการ

วิเคราะห์ข้อดี ข้อด้อย โอกาส และอุปสรรคข้อดีและข้อด้อย
ข้อดี
1. เป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน
2. เน้นในด้านความรู้หรือประสบการณ์ด้านตัดผม
3. ลงทุนต่ำ เครื่องมืออุปกรณ์ไม่แพง สามารถหาซื้อง่าย
4. ธุรกิจค่อนข้างมั่นคง มีรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง
ข้อด้อย
1. ช่างฝีมือดีหายาก และอัตราการเปลี่ยนงานสูง
2. ทำเลที่ตั้งที่ดี มีอัตราค่าเช่าสูง ทำให้เป็นภาระต่อผู้ประกอบการ ขนาดกลางและขนาดย่อม

โอกาสและอุปสรรค

โอกาส
1. เป็นบริการที่ประชาชนทุกเพศทุกวัย มีความจำเป็นต้องใช้บริการ
2. ผู้ใช้บริการเน้นความสำคัญกับบุคลิกและการแต่งตัวมากขึ้น ทำให้พิถีพิถันในการเลือกใช้บริการร้านที่สามารถให้บริการที่ดี
3. ร้านขนาดเล็กและขนาดกลาง สามารถตั้งอยู่ย่านชุมชนที่ไม่ใหญ่นัก
4. ชาวต่างชาติไม่สามารถประกอบอาชีพตัดผมได้โดยเสรี

อุปสรรค
1. ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ มีผู้ตกงานเป็นจำนวนมาก ทำให้สูญเสียลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
2. มีการแข่งขันสูง เนื่องจากสามารถประกอบกิจการได้โดยง่าย
3. ในย่านที่สำคัญและในศูนย์การค้า หาสถานที่ตั้งยากและอัตราค่าเช่าสูง

ข้อเสนอแนะ
ด้านการบริหารจัดการ
1. ต้องมีความรู้พื้นฐานในธุรกิจให้บริการของตนเอง และติดตามความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
2. ต้องมีความเป็นผู้นำและพื้นฐานความรู้ด้านการบริหารจัดการ
3. ส่งเสริมและให้โอกาสพนักงานเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจในลักษณะแบ่งปันผลประโยชน์จากรายได้
4. ให้ความสำคัญกับการสรรหาและฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร
5. ให้ผลตอบแทนและสิ่งจูงใจที่เหมาะสมเพื่อให้แรงกระตุ้นในการปฏิบัติงานของพนักงาน
6. ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการบริหารหรือเสนอความคิดเห็น มีความรักและภักดีต่อองค์กร
7. ดำเนินการให้ถูกต้องต่อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
8. จัดทำแผนธุรกิจที่เหมาะสม ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
9. ต้องให้ความสำคัญและเวลากับการบริหารอย่างใกล้ชิด

ด้านการตลาด
การบริการและสถานที่ให้บริการ

การบริการ
1. ให้บริการที่ดีและเป็นกันเองกับผู้มาใช้บริการ
2. สร้างตราหรือเครื่องหมายเพื่อให้ลูกค้าระลึกถึงและจดจำได้ง่าย
3. สร้างมาตรฐานด้านการให้บริการและอัตราค่าบริการ

สถานที่ให้บริการ
1. ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย, สะอาด และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
2. เลือกทำเลที่ตั้งให้เหมาะสม สะดวกต่อการติดต่อ เดินทางสะดวก

การส่งเสริมการขาย
1. ทำป้ายโฆษณาหน้าสถานบริการให้สะดุดตา
2. ทำโบว์ชัว แผ่นพับ แนะนำบริการ แจกแก่กลุ่มเป้าหมาย

ด้านบัญชีและการเงิน
1. ไม่สร้างภาระค่าใช้จ่ายประจำมากเกินไป
2. มีโครงสร้างเงินลงทุนที่เหมาะสม ไม่ก่อภาระหนี้มากเกินไป
3. บริหารการเงินอย่างเหมาะสมให้ธุรกิจมีสภาพคล่องทางการเงินสูง4. นำกำไรจากการดำเนินงานเป็นเงินทุนสำรองหรือสำหรับการขยายธุรกิจ
5. แยกบัญชีระหว่างธุรกิจและส่วนตัวเพื่อควบคุมและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของธุรกิจได้ถูกต้อง
6. ควรจัดทำงบการเงินให้ถูกต้อง
7. นำระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชีมาช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน

ขอรายละเอียดข้อมูลผ่านเครื่องโทรสาร หรือติดต่อสำนักส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ

โทร 0-2547-5954-5 โทรสาร 0-2547-5954

ตัวอย่าง รายละเอียดเงินลงทุนของธุรกิจร้านตัดผม รายการ จำนวนเงิน(บาท)

ค่าตกแต่งอาคารสำนักงาน 158,000 เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน

- ชุดรับแขก 5,300

- โต๊ะ / เก้าอี้ 4,800

- ตู้เอกสาร / ตู้โชว์ 5,800

- เครื่องปรับอากาศ 52,000

- โทรทัศน์ 11,000

- เครื่องเสียง 8,400

- ตู้เย็น 4,700

- เครื่องโทรศัพท์ 8,600

- เครื่องคิดเลข 600

- เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ 9,200

รวม 110,400

ค่าเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับการให้บริการ

- เครื่องอบผม 12,000

- เครื่องอบไอน้ำ 14,000

- เก้าอี้เสริมสวย 8,300

- เตียงสระผม 4,000

- ไดร์เป่าผม 10,000

- ตู้กระจกเสริมสวย 16,000

- กรรไกรตัดผม 11,000

- แบตเตอร์เลี่ยนไฟฟ้า 2,600

- อ่างสระผม 7,700

- อื่นๆ 12,000

รวม 97,600

เงินทุนหมุนเวียน 221,000

รวมเงินลงทุนทั้งหมด 587,000

ที่มา ประมาณการจากการสัมภาษณ์ผู้ประกอบกิจการจำนวน 10 ราย ในช่วงเดือน ธันวาคม พ.ศ.2543-มกราคม พ.ศ.2544 และปรับรายการลงทุนซึ่งผู้ประกอบกิจการ ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทุนและมีความจำเป็นต่ำออก

ตัวอย่าง รายละเอียดรายรับ-รายจ่าย ของธุรกิจร้านตัดผม รายการ จำนวนเงิน(บาท)
รายได้ 1,239,000 รายจ่าย

- เงินเดือนพนักงาน 208,800

- ค่าจ้างรายวัน 183,000

- ค่าเช่าสถานที่ 181,920

- ค่าวัสดุสิ้นเปลือง 144,030

- ค่าน้ำประปา 12,120

- ค่าไฟฟ้า 48,120

- ค่าโทรศัพท์ 16,080

- ดอกเบี้ย 6,000

- ค่าภาษีต่างๆ 7,180

- ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด 75,840

รวม 916,086

กำไร(ขาดทุน)ก่อนหักภาษีเงินได้ 322,914

หัก ภาษีเงินได้(30%) 96,874

กำไร(ขาดทุน)สุทธิ 226,040

ที่มา ค่าเฉลี่ยจากผลประกอบกิจการปี พ.ศ.2543 ของผู้ประกอบกิจการจำนวน 10 ราย ซึ่งได้จากการสัมภาษณ์ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ.2543-มกราคม พ.ศ.2544 ตัวอย่าง การคำนวณราคา ผู้ประกอบกิจการร้านตัดผมแห่งหนึ่งลงทุนเช่าพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พื้นที่ 70 ตารางเมตร อายุสัญญาเช่า 1 ปี ค่าเช่าเดือนละ 100,000 บาท มีช่างตัดผมให้บริการ 7 คน มีลูกมือ 10 คน และมีรายละเอียดต้นทุนและต้น

ทุนต่างๆ ดังนี้

1. ต้นทุนคงที่
1.1 ต้นทุนคงที่ที่เป็นตัวเงิน (ต่อปี)
(1) ค่าเช่า = 1,200,000 บาท
(2) เงินเดือนพนักงานประจำ = 840,000 บาท
(3) ค่าไฟฟ้า = 120,000 บาท
(4) ค่าน้ำประปา = 60,000 บาท
(5) ค่าโทรศัพท์ = 24,000 บาท
(6) ค่าดอกเบี้ยจ่าย = 60,000 บาท
(7) ค่าป้าย = 2,000 บาท
รวม = 2,306,000 บาท

1.2 ต้นทุนคงที่ที่ไม่เป็นตัวเงิน
(1) ค่าตกแต่งภายใน 300,000 บาท
คิดค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 = 60,000 บาท(2) ค่าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน 97,000 บาท
คิดค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 = 19,400 บาท
(3) ค่าเครื่องมืออุปกรณ์ 271,800 บาท
คิดค่าเสื่อมราคาร้อยละ 20 = 54,360 บาท
รวมต้นทุนคงที่ที่ไม่เป็นตัวเงิน = 133,760 บาท
รวมต้นทุนคงที่ทั้งหมดต่อปี = 2,439,760 บาท

2. ประมาณการจำนวนลูกค้าที่คาดว่าจะเข้ามาใช้บริการ
ช่างตัดผม 1 คน สามารถให้บริการลูกค้าได้วันละ 10 คน
ช่างตัดผม 7 คน สามารถให้บริการลูกค้าได้วันละ 70 คน
ในเวลา 1 ปี (300 วัน) สามารถให้บริการลูกค้าได้สูงสุด = 300X70 = 21,000 คน
ประมาณการมีลูกค้ามาใช้บริการร้อยละ 90 หรือ = 18,900 คน

3. ต้นทุนคงที่จัดสรรต่อราย = 2,439,760 = 129.09 บาท
18,900

4. ต้นทุนผันแปร (สระซอย)
(1) ค่าแรงงานช่างตัดผมต่อราย = 60 บาท
(2) ค่าวัสดุสิ้นเปลืองต่อราย = 40 บาท
รวมต้นทุนผันแปรต่อราย = 100 บาท

5. ต้นทุนทั้งหมดต่อราย = 129.09+100 = 229.09 บาท

6. ผู้ประกอบกิจการตั้งอัตราค่าบริการโดยให้มีกำไรร้อยละ 20 ของต้นทุนทั้งหมด
= 45.82 บาทราคาให้บริการต่อราย = 229.09+45.82 = 274.91 บาท

7. ผู้ประกอบกิจการตัดสินใจตั้งอัตราค่าบริการสระซอย = 280 บาท/คน/ครั้ง

แหล่งที่มา:www.handbtoday.com