สำหรับท่านที่กำลังคิดจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว วันนี้มีข้อมูลก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเต้าหู้ นายลี้ มาฝากให้ลองศึกษาพิจารณากัน เพื่อเป็นตัวเลือกก่อนการตัดสินใจ ก่อนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวของท่าน
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเต้าหู้ นายลี้ มีที่มาจากแซ่ของคุณพ่อซึ่ง "แซ่ลี้" เหตุเกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 สมนึก กัลยาธุวานนท์ ได้พลิกสถานการณ์ เป็นโอกาสที่ตยเองมองข้ามมานาน
เริ่มต้นทำธุรกิจจากการที่ญาติของแฟนมีโรงงาน ทำลูกชิ้นเต้าหู้ (แคะ) สูตรโบราณดั้งเดิมที่หาทานยาก จากนั้น จึงคิดสูตรน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวขึ้นมา ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่ได้รับประทาน
รายละเอียดก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเต้าหู้ นายลี้เป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นแคระ, ยำลูกชิ้น, ขนมจีบ, ชาลาเปา และขนมว่างตามฤดูกาล
แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเต้าหู้ นายลี้
รายละเอียดการลงทุนของเฟรนไชส์
รูปแบบการลงทุนแบบ A เงินลงทุน 200,000 บาท
- เคาน์เตอรวางตู้ก๋วยเตี๋ยว 1 ตัว
- เคาน์เตอร์วางหม้อน้ำชุป 1 ตัว ุ
- ตะแกรงวางชาม 1 ชิ้น
- ชุดลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชุด
- กรวย / ช้อนซุป 1 ชุด
- ซ้อน / ตะเกียบ (คละ) 30 โหล
- กล่องตะเกียบ 8 โบ
- ชุดตวงพริก 8 ชุด
- ถังถั่วงอก / ผักบุ้ง (สแตนเลส) 2 โบ
- โต๊ะทานอาหาร (สแตนเลส) 8 ตัว
- เก้าอี้ (สแตนเลส) 32 ตัว
- ถังแก๊ส / อุปกรณ์ 2 ถัง
- ชามก๋วยเตี๋ยวคละ 3 ขนาด 17 โหล
- ขวดโหลเย็นตาโฟ 6 ใบ
- ตู้ก๋วยเตี๋ยว 1 ตัว
- แผ่นป้ายโฆษณาก่อนเปิดร้าน 1 ผืน
- ป้ายเชลล์ชวนชิม 1 ชิ้น
- ชุดฟอร์มพนักงาน 12 ขุด
- หม้อน้ำซุป 2 ใบ
- โถเครื่องปรุง 8 ใบ
- ใบปลิว 500 ใบ
**รายละเอียดรูปแบบ A อุปกรณ์เป็นสแตนเลส
รูปแบบการลงทุนแบบ B เงินลงทุน 130,000 บาท
- เคาน์เตอร์วางตู้ก๋วยเตี๋ยว 1 ตัว
- เคาน์เตอร์วางหม้อน้ำชุป 1 ตัว
- ตู้ก๋วยเตี๋ยว 1 ใบ
- หม้อน้ำซุป 2 ใบ
- ตะแกรงวางชาม 1 ชิ้น
- ชุดลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชุด
- ชามก๋วยเตี๋ยวคละ 3 ขนาด 15 โหล
- ขวดโหลเย็นตาโฟ 6 ใบ
- โถเครื่องปรุง 8 โบ
- กรวย / ช้อนซุป 1 ชุด
- ช้อน / ตะเกียบ (คละ) 30 โหล
- กล่องตะเกียบ 8 ใบ
- ชุดตวงพริก 8 ชุด
- ถังถั่วงอก / ผักบุ้ง (สแตนเลส) 2 ใบ
- โต๊ะทานอาหาร (สแตนเลส) 8 ตัว
- เก้าอี้ (สแตนเลส) 32 ตัว
- ถังแก๊ส / อุปกรณ์ 2 ถัง
- ใบปลิว 500 ใบ
- แผ่นป้ายโฆษณาก่อนเปิดร้าน 1 ผืน
- ป้ายเชลล์ขวนชิม 1 ชิ้น
- ชุดฟอร์มพนักงาน 12 ชุด
* รายละเอียดรูปแบบ B อุปกรณ์เป็นอะลูมิเนียม
รูปแบบการลงทุนแบบ C เงินลงทุน 70,000 -100,000 บาท
- รถเข็น 1 ชุด
- ตู้ก๋วยเตี๋ยวสแตนเลส 1 ใบ
- หมอน้ำซุป 1 ใบ
- ชุดลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว 1 ชุด
- ถังถั่วงอก / ผักบุ้ง 2 ใบ
- โต๊ะทานอาหาร (ธรรมดา) 4 ตัว
- ชามก๋วยเตี๋ยว คละ 3 ขนาด 6 โหล
- ขวดโหลเย็นตาโฟ 3 ใบ
- โถเครื่องปรุง 3 ใบ
- กรวย / ช้อนน้ำซุป 1 ชุด
- ช้อน / ตะเกียบ 3 โหล
- กล่องตะเกียบ 4 ใบ
- ชุดตวงพริก 4 ชุด
- เก้าอี้ (ธรรมดา) 16 ตัว
- ถังแก๊ส / อุปกรณ์ 1 ซุด
- ใบปลิว 300 โบ
- ป้ายเชลล์ชวนชิม (ขนาดเล็ก) 1 ป้าย
- ชุดฟอร์มพนักงาน 3 ขุด
- เมนูอาหารพร้อมรูปภาพ 1 ชุด
ตารางค่าใช้จ่าย
หัวข้อ ค่าใช้จ่าย
รูปแบบการลงทุนแบบ A 200,000
รูปแบบการลงทุนแบบ B 130,000
รูปแบบการลงทุนแบบ C 70,000 - 100,000
** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยมิได้แจังล่วงหน้า
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเต้าหู้ นายลี้ ติดต่อคุณ สมนึก กัลยาธุวานนท์
โทรศัพท์ 0-2965-0142
5/31/2011
5/28/2011
ทำไข่เค็มเสริมไอโอดีนขาย
ช่วงนี้ไข่ราคาแพง แต่ยังไงคนไทยก็ขายไข่ ไม่ได้ วันนี้จึงอยากเชิญชวนทำที่กำลังมองหางาน หรือว่างๆอยู่อยากมีรายได้ ลองหันมาทำไข่เค็มขายส่งกันดีกว่า
ขั้นตอนการทำไข่เค็มนั้นก็ไม่ยากเลยทำแล้วขาย รายได้ดี การทำไข่เค็มเสริมเกลือไอโอดีนเข้าไปเป้นอีกหนึ่งจุดขายที่กำลังมาแรง
ไข่เค็มไอโอดีนนี้ประกอบไปด้วย ดินสอพองและเกลือไอโอดีน เป็นส่วนประกอบหลัก
ภาพจากpirun.ku.ac.th
ส่วนผสมมีดังนี้
1.ดินสอพอง 1 กิโลกรัม
2.เกลือไอโอดีน 300 กรัม ผสมน้ำ 350 กรัม/ไข่เป็ด 60 ฟอง
3.ไข่เป็ด 60 ฟอง
ขั้นตอนการทำ
1.นำส่วนผสมทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน ขยำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไข่เป็ดมาชุบ
แล้ววางไว้ในพาชนะที่ลมเข้าไม่ได้ อาจจะใช้ลังไม้ หรึอกล่องภาชนะ (กล่องใส่ผลไม้) กุข้างลังด้วย
หนังสือพิมพ์แล้วรองด้วยพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง
ขั้นตอนการชุบไข่นั้นมีข้อสังเกตที่ว่า ไม่ต้องล้างไข่ก่อนชุบเพราะการล้างไข่ทำให้ไข่อิ่มน้ำ ความเค็มผ่านเข้าไปได้ไม่
เต็มที่ และไข่เสียเร็วด้วย จากนั้น ทิ้งไว้ 25 วัน ทางที่ดี จดไว้ข้างกล่องเลยว่า เริ่มทำวันไหน และวันไหนจะนำไปต้ม เพราะหากถ้า
หลงลืมวันจำไม่ได้ ทำให้ไข่เสียได้
เมื่อครบ 25 วันแล้ว นำไข่มาล้างให้สะอาด ถ้าพบไข่ร้าวอย่านำไปต้ม เพราะจะแตกใช้ไม่ได้ ให้เอาไข่
แดงออกมา นำไปขายได้ ไข่แดงที่เกิดจากไข่ร้าวนี้ ไม่ใช่ไข่เสียงจึงนำไปรับประทานได้ จะพบว่าไข่แดงนี้ได้ตาม
ร้านข้าวต้มในรายการอาหาร ยำไข่เค็ม หรือนำไปใส่ไส้ขนมเปี๊ยะ ขนมโมจิ เป็นต้น
ส่วนไข่ที่มีสภาพดี นำมาต้มประมาณ 1 ชั่วโมงใช้ไฟอ่อน หากใช้ไฟแรง น้ำเดือด จะทำให้ไข่แตก ถ้า
ต้องการไข่มีผิวขาวนวล หยอดสารส้มลงไปสัก 200 กรัม/ไข่ 250 ฟอง
ต้มได้ทีแล้ว ยกขึ้น ทิ้งไว้ให้เย็น นำบรรจุ่ลงภาชนะ
ถามว่า เกลือไอโอดีน กับดินสอพองจะซื้อทีไหน ดินสอพองหาซื้อได้ตามร้านวัสดุ
ก่อสร้าง ส่วนเกลือไอโอดีนซื้อได้ทีสาธารณสุขอำเภอหรือตำบล ราคาไม่แพง
การทำไข่เค็มวิธีนี้กับวิธีการแช่น้ำเกลือว่า ไข่เค็มพอกดินสอพองเมื่อต้มแล้วจะอยู่ได1เดือน นานกว่าแบบแช่น้ำเกลือ ซึ่งแบบแช่น้ำเกลือจะอยู่ได้
เพียง 15 วัน เท่านั้น ทั้งนี้ เป็นเพราะวิธีการที่ความเค็มแพร่เข้าไป หากเป็นการแช่น้ำเกลือ ความเค็มจะแพร่เข้าไปเร็วมาก เทียบกับการพอกด้วยดินความเค็มจะ
ค่อย ๆ ซึมเข้าไป แต่ทั่วถึงกว่ากาีำรทำไข่เค็มนี้ นำมาทอดเป็นไข่ดาวก็ได้ โดยกะระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน ไข่ยังไม่เค็มมาก นำมาทอดได้อร่อยด้วย จะเห็นว่า มีวิธีการเลือกกินได้หลายวิธีไม่จำเป็นต้องกินไข่เค็มต้มเสมอไป
เห็นมั๊ยว่าการทำไข่เค็มไม่ได้ยากเลย ลงทุนก้ไม่มาก น่าทำเป้นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้
ขั้นตอนการทำไข่เค็มนั้นก็ไม่ยากเลยทำแล้วขาย รายได้ดี การทำไข่เค็มเสริมเกลือไอโอดีนเข้าไปเป้นอีกหนึ่งจุดขายที่กำลังมาแรง
ไข่เค็มไอโอดีนนี้ประกอบไปด้วย ดินสอพองและเกลือไอโอดีน เป็นส่วนประกอบหลัก
ภาพจากpirun.ku.ac.th
ส่วนผสมมีดังนี้
1.ดินสอพอง 1 กิโลกรัม
2.เกลือไอโอดีน 300 กรัม ผสมน้ำ 350 กรัม/ไข่เป็ด 60 ฟอง
3.ไข่เป็ด 60 ฟอง
ขั้นตอนการทำ
1.นำส่วนผสมทั้งหมดผสมเข้าด้วยกัน ขยำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไข่เป็ดมาชุบ
แล้ววางไว้ในพาชนะที่ลมเข้าไม่ได้ อาจจะใช้ลังไม้ หรึอกล่องภาชนะ (กล่องใส่ผลไม้) กุข้างลังด้วย
หนังสือพิมพ์แล้วรองด้วยพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง
ขั้นตอนการชุบไข่นั้นมีข้อสังเกตที่ว่า ไม่ต้องล้างไข่ก่อนชุบเพราะการล้างไข่ทำให้ไข่อิ่มน้ำ ความเค็มผ่านเข้าไปได้ไม่
เต็มที่ และไข่เสียเร็วด้วย จากนั้น ทิ้งไว้ 25 วัน ทางที่ดี จดไว้ข้างกล่องเลยว่า เริ่มทำวันไหน และวันไหนจะนำไปต้ม เพราะหากถ้า
หลงลืมวันจำไม่ได้ ทำให้ไข่เสียได้
เมื่อครบ 25 วันแล้ว นำไข่มาล้างให้สะอาด ถ้าพบไข่ร้าวอย่านำไปต้ม เพราะจะแตกใช้ไม่ได้ ให้เอาไข่
แดงออกมา นำไปขายได้ ไข่แดงที่เกิดจากไข่ร้าวนี้ ไม่ใช่ไข่เสียงจึงนำไปรับประทานได้ จะพบว่าไข่แดงนี้ได้ตาม
ร้านข้าวต้มในรายการอาหาร ยำไข่เค็ม หรือนำไปใส่ไส้ขนมเปี๊ยะ ขนมโมจิ เป็นต้น
ส่วนไข่ที่มีสภาพดี นำมาต้มประมาณ 1 ชั่วโมงใช้ไฟอ่อน หากใช้ไฟแรง น้ำเดือด จะทำให้ไข่แตก ถ้า
ต้องการไข่มีผิวขาวนวล หยอดสารส้มลงไปสัก 200 กรัม/ไข่ 250 ฟอง
ต้มได้ทีแล้ว ยกขึ้น ทิ้งไว้ให้เย็น นำบรรจุ่ลงภาชนะ
ถามว่า เกลือไอโอดีน กับดินสอพองจะซื้อทีไหน ดินสอพองหาซื้อได้ตามร้านวัสดุ
ก่อสร้าง ส่วนเกลือไอโอดีนซื้อได้ทีสาธารณสุขอำเภอหรือตำบล ราคาไม่แพง
การทำไข่เค็มวิธีนี้กับวิธีการแช่น้ำเกลือว่า ไข่เค็มพอกดินสอพองเมื่อต้มแล้วจะอยู่ได1เดือน นานกว่าแบบแช่น้ำเกลือ ซึ่งแบบแช่น้ำเกลือจะอยู่ได้
เพียง 15 วัน เท่านั้น ทั้งนี้ เป็นเพราะวิธีการที่ความเค็มแพร่เข้าไป หากเป็นการแช่น้ำเกลือ ความเค็มจะแพร่เข้าไปเร็วมาก เทียบกับการพอกด้วยดินความเค็มจะ
ค่อย ๆ ซึมเข้าไป แต่ทั่วถึงกว่ากาีำรทำไข่เค็มนี้ นำมาทอดเป็นไข่ดาวก็ได้ โดยกะระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน ไข่ยังไม่เค็มมาก นำมาทอดได้อร่อยด้วย จะเห็นว่า มีวิธีการเลือกกินได้หลายวิธีไม่จำเป็นต้องกินไข่เค็มต้มเสมอไป
เห็นมั๊ยว่าการทำไข่เค็มไม่ได้ยากเลย ลงทุนก้ไม่มาก น่าทำเป้นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้
5/23/2011
ธุรกิจขายมันฝรั่งทอด
ขอบคุณภาพจากlonleam.com (ตัวอย่างภาพไม่ตรงกับข้อมูล)
มันฝรั่งทอดเป็นของกินเล่นที่ได้รับความนิยมมาตลอด ไม่เคยตกเทรนด์ วันนี้มีแฟรนไชส์มันฝรั่งทอด 1 ตัวอย่างมาฝากครับ
"มิสเตอร์เฟร้นซ์ฟรายส์" เป็นมันฝรั่งแท้ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาให้เหมาะสำหรับเด็กจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งอุดมไปด้วย คุณค่าทางอาหารสูง เช่นโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, วิตามิน, ธาตุเหล็ก, ฟอสฟอรัส เป็นต้น
แป้งมันฝรั่ง มิสเตอร์เฟร้นช์ฟรายส์ ประกอบด้วย แป้งมันฝรั่งแท้ๆ, ไข่ขาวผง, น้ำตาล, เกลือ, ถั่วเหลือง ให้พลังงานและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายทำให้ร่างกายแข็งแรงนอกจากนี้ยังบำรุงสายตา กระดูกและฟัน
วันนี้ มิสเตอร์เฟร้นซ์ฟรายส์ เปิดโอกาสทางธุรกิจให้ผู้สนใจอยากทำธุรกิจ รายได้งามและเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองได้
เงื่อนไขการลงทุนมิสเตอร์เฟร้นซ์ฟรายส์
แบบที่1 ซื้อเฉพาะเครื่องทำเฟร้นฟรายส์ 12,500 บาท (ชำระงวดเดียว)
แบบที่ 2 ซื้อเครื่องทำเฟร้นฟรายส์พร้อมบูธขาย 18,000 บาท (ชำระ 2 งวดๆละ 9.000 บาท)
แบบที่ 3 ซื้อเครื่องทำเฟร้นฟรายส์พร้อมบูธขายและกระทะทอดไฟฟ้า 23,000 บาท
(ชำระครั้งแรก 8,000 บาท และผ่อนต่อ 3 เดือนๆ ละ 5,000 บาท)
ราคาอุปกรณ์มิสเตอร์เฟร้นซ์ฟรายส์
อุปกรณ์ 1 ชุดประกอบด้วย
1. บูธขายเฟร้นซ์ฟรายส์ 1 ตู้ ราคา 5,000 บาท
2. ชุดกระทะทอดไฟ้ฟ้า 1 ชุด ราคา 5,000 บาท
3. เครื่องกดเฟร้นซ์ฟรายส์ 1 ชุด ราคา 12,500 บาท ประกอบด้วย
3.1 เครื่องกดเฟร้นซ์ฟรายส์ 1 เครื่อง
3.2 กระป๋องผสมแป้ง 2 ใบ
3.3 ยางรองกระป๋องผสมแป้ง 1 อัน
3.4 แผ่นกดฝาปิด 1 อัน
3.5 แบบพิมพ์ตัวรู 1 อัน
3.6 ที่ตีแป้ง 1 อัน
3.7 ถาดรองแป้ง 1 อัน
4. ถาดใส่เฟร้นซ์ฟรายส์ 1 อัน ราคา 500 บาท
5. ที่ตักมันฝรั่ง 1 อัน ราคา Free บาท
รวมราคาชุดละ 23,000 บาท
สิ่งที่จะได้รับจาก มิสเตอร์เฟร้นซ์ฟรายส์
แป้งมันฝรั่ง “มิสเตอร์เฟร้นซ์ฟรายส์” 1 กิโลกรัม ราคา 230 บาท (พิเศษช่วงแรกซื้อแป้ง 10 ถุงแถม 1 ถุง, 20 ถุงแถม 2 ถุง, 30 ถุงแถม 3 ถุง, 40 ถุงแถม 4 ถุง, 50 ถุงแถม 7 ถุง, 100 ถุงแถม 20 ถุง)
โดยราคาขายมี 3 ราคา (บรรจุใส่โคนกระดาษ)
1. โคนละ 10 บาท แป้ง 1 กิโลกรัม จะตักขายได้ประมาณ 48โคน คิดเป็นเงิน 480 บาท
2. โคนละ 15 บาท แป้ง 1 กิโลกรัม จะตักขายได้ประมาณ 32 โคน คิดเป็นเงิน 480 บาท
3. โคนละ 20 บาท แป้ง 1 กิโลกรัม จะตักขายได้ประมาณ 24โคน คิดเป็นเงิน 480 บาท
ขั้นตอนในการทำ
การเตรียมส่วนผสม
1. เตรียมแป้ง “มิสเตอร์เฟร้นซ์ฟรายส์" 1 ถุง (น้ำหนัก 1 กิโลกรัม)
2. เตรียมน้ำเย็นประมาณ 1.5-1.7 ลิตร
วิธีการผสม
1. นำน้ำเย็นที่เตรียมไว้ใส่ลงในกระป๋องให้ถึงขีดที่กำหนดไว้ คนน้ำในกระป๋องแล้วเทแป้งลงไปผสมให้หมดถุง (ระหว่างที่เทแป้งลงในกระป๋องอย่าหยุดคนน้ำ) คนเร็วๆ
ให้ส่วนผสมเข้ากันประมาณ 1 นาที ตั้งกระป๋องแป้งทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แป้งจะแข็งตัว พร้อมที่จะนำไปกดให้เป็นเส้นเฟร้นซ์ฟรายส์
(แป้ง 1 กิโลกรัม เมื่อผสมแล้วจะหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม)
2. นำกระป๋องแป้งตั้งบนเครื่องกด แล้วกดให้แป้งไหลออกมาเป็นเส้นเฟร้นซ์ฟรายส์ เพื่อนำไปทอด
3. เอาแป้งที่ได้ไปทอดในน้ำมันที่เตรียมไว้น้ำมันที่ใช้จะต้องมีความร้อนประมาณ 180 องศา ใช้เวลาในการทอด ประมาณ 2.5 นาที
สนใจธุรกิจมิสเตอร์เฟรนฟรายส์ (Mister Frenchfries) ติดต่อได้ที่
ที่อยู่ 22/33-34 ถนนประชาราษฎร์สาย 1
ซ.4 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800
โทรศัพท์ 0-2912-4225
5/20/2011
สร้างธุรกิจบนโลกออนไลน์
สร้างธุรกิจบนโลกออนไลน์
ทุกวันนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี การใช้งานอินเตอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องปกติของคนเรา คนไทยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตหลายสิบล้านคน และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต จึงเกิดโอกาสทางธุรกิจในโลกออนไลน์มากมาย
เด็กจบใหม่ๆ สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองเป้นกอบเป้นกำ โดยไม่ต้องไปทำงานเป็นลูกจ้างใคร หรือแม้แต่เด้กที่กำลังเรียนอยู่ก็สร้างมารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้มาก ก่อนจะจบออกมาด้วยซ้ำ
โอกาสทางธุรกิจในโลกออนไลน์นั้นยังมีอยู่อีกมากมาย อยู่ที่ ไอเดียแนวคิดในการจับธุรกิจมาต่อยอดว่าจะสร้าโมเดลขึ้นมาได้อย่างไร งานนี้ต้องอาศัยไอเดียกับความคิดสร้างสรรค์ล้วนๆ
วันนี้มีคตัวอย่างผู้ที่ สร้างธุรกิจในโลกออนไลน์มาให้ศึกษากันนั่นคือ บ้านกระต่าย บนโลกออนไลน์ "บันนี่ ดีไลท์ ดอทคอม"
ภาพจากgotoknow.org
เสน่ห์อย่างหนึ่งของกระต่ายก็คือ จะไม่เข้ามาคลอเคลียกับเจ้าของเหมือนหมาแมว แต่เขาจะเป็นเจ้านายเราเป็นคนใช้ แต่ก็สามารถสื่ออารมณ์ได้เหมือนกัน อย่างถ้าเขาอารมณ์เสียจะกระทืบเท้าเลยนะ ดังตึ้ง!!"
เป็นคำบอกเล่าจาก คุณเดียว หรือ คุณปิยะลักษณ์ สาริยา สาวอารมณ์ดี ที่รักการเลี้ยงกระต่ายเป็นชีวิตจิตใจ ผู้ก่อตั้ง www.bunnydelight.com
เวบไซต์ให้ข้อมูลพื้นฐานที่คนเลี้ยงกระต่ายทั่วไปควรรู้ ตลอดจนถึงคนที่คิดเพาะขยายพันธุ์เมื่อกระต่ายแสนรักถึงวัยเจริญพันธุ์ คุณเดียว คาดหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ควรแก่การเผยแพร่ให้ทราบโดยทั่วกัน
เธอจึงรวบรวมความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงกระต่ายของเธอลงในเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูลพร้อมสรรพ สำหรับคนรักกระต่าย
เริ่มจากการเลี้ยงกระต่ายแสนรัก ที่เธอเลี้ยงไว้มากกว่า 60 ตัว โดยอาศัยพื้นที่เล็กๆ ในสวนไผ่บนพื้นที่ 5 ไร่ ของตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี คุณเดียวก่อร่างสร้างรั้ว
เพื่อเป็นบ้านหลังน้อยสำหรับเลี้ยงกระต่ายโดยเฉพาะ เกิดจากความชอบ ด้วยความที่เราเป็นคนชอบท่องเที่ยว ชอบเที่ยวป่า ชอบหาอะไรทำเวลาว่าง เลยอยากจะมีสถานที่สักแห่งในต่างจังหวัด
แล้วลองทำไร่ ทำสวน แต่เราเองยังต้องทำงานที่กรุงเทพฯ อยู่ ต้องไปๆ มาๆ จึงเลือกปลูกพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก ให้เทวดาเลี้ยงได้ เราก็ได้คำตอบว่าต้องปลูกไผ่ แต่พอผ่านไปสัก 5 เดือน เราเริ่มกลายเป็นคนมีเวลาว่าง
ไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว
คุณเดียว เล่าต่อว่า พอเริ่มมีเวลาว่างเธอจึงท่องโลกอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นประจำ จนในที่สุด คุณเดียวก็ต้องกลับมาหาเพื่อนที่แท้จริง สัมผัสจับต้องได้ และสวมกอดให้ได้ชื่นใจ สุดท้ายมาลงตัวที่
"กระต่าย" เพราะเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างน่ารัก น่ากอด กินน้อย และไม่ส่งเสียงดังรบกวน คุณเดียวตระเวนตามฟาร์มต่างๆ ไปทำความรู้จักกับกระต่ายก่อน หาข้อมูลไปเรื่อย ทั้งในเว็บไซต์ไทย
เว็บไซต์ต่างประเทศ ดูว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้าง วิธีการดูแล การรักษาพยาบาล ศึกษาหมด จนได้ฮอลแลนด์ ลอป มาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น แรกๆ เลี้ยงอยู่ 3-4 ตัว ไม่ได้คิดถึงตลาด หรือจะเพาะพันธุ์ขายเลย
เราคิดแค่เพียงว่า จะทำอย่างไร ให้เขาอยู่รอดและมีความสุขความสุขและความเพลิดเพลินในการเลี้ยงกระต่ายของคุณเดียว ส่งผลให้มีกระต่ายน่าเอ็นดูทยอยเข้ามา
นี่คือตัวอย่างของคนที่สร้างธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่มีคนเข้าไปอ่านมากกว่า ล้านครั้ง เป็นธุรกิจที่ กำลังมาแรงในยุคนี้ ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ผ่านหน้าเวบไซต์ชีวิตไม่ต้องเร่งรีบเข้างานเป็นเวลา ดูแล้วน่าจะเป็นชีวิตที่มีความสุขตรงใจใครอีกหลายๆคน
หากคุณมีไอเดียดีไม่ควรมองข้าง ธุรกิจบนโลกออนไลน์
ทุกวันนี้เป็นยุคของเทคโนโลยี การใช้งานอินเตอร์เน็ตกลายเป็นเรื่องปกติของคนเรา คนไทยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตหลายสิบล้านคน และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต จึงเกิดโอกาสทางธุรกิจในโลกออนไลน์มากมาย
เด็กจบใหม่ๆ สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองเป้นกอบเป้นกำ โดยไม่ต้องไปทำงานเป็นลูกจ้างใคร หรือแม้แต่เด้กที่กำลังเรียนอยู่ก็สร้างมารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้มาก ก่อนจะจบออกมาด้วยซ้ำ
โอกาสทางธุรกิจในโลกออนไลน์นั้นยังมีอยู่อีกมากมาย อยู่ที่ ไอเดียแนวคิดในการจับธุรกิจมาต่อยอดว่าจะสร้าโมเดลขึ้นมาได้อย่างไร งานนี้ต้องอาศัยไอเดียกับความคิดสร้างสรรค์ล้วนๆ
วันนี้มีคตัวอย่างผู้ที่ สร้างธุรกิจในโลกออนไลน์มาให้ศึกษากันนั่นคือ บ้านกระต่าย บนโลกออนไลน์ "บันนี่ ดีไลท์ ดอทคอม"
ภาพจากgotoknow.org
เสน่ห์อย่างหนึ่งของกระต่ายก็คือ จะไม่เข้ามาคลอเคลียกับเจ้าของเหมือนหมาแมว แต่เขาจะเป็นเจ้านายเราเป็นคนใช้ แต่ก็สามารถสื่ออารมณ์ได้เหมือนกัน อย่างถ้าเขาอารมณ์เสียจะกระทืบเท้าเลยนะ ดังตึ้ง!!"
เป็นคำบอกเล่าจาก คุณเดียว หรือ คุณปิยะลักษณ์ สาริยา สาวอารมณ์ดี ที่รักการเลี้ยงกระต่ายเป็นชีวิตจิตใจ ผู้ก่อตั้ง www.bunnydelight.com
เวบไซต์ให้ข้อมูลพื้นฐานที่คนเลี้ยงกระต่ายทั่วไปควรรู้ ตลอดจนถึงคนที่คิดเพาะขยายพันธุ์เมื่อกระต่ายแสนรักถึงวัยเจริญพันธุ์ คุณเดียว คาดหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ควรแก่การเผยแพร่ให้ทราบโดยทั่วกัน
เธอจึงรวบรวมความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงกระต่ายของเธอลงในเว็บไซต์ เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูลพร้อมสรรพ สำหรับคนรักกระต่าย
เริ่มจากการเลี้ยงกระต่ายแสนรัก ที่เธอเลี้ยงไว้มากกว่า 60 ตัว โดยอาศัยพื้นที่เล็กๆ ในสวนไผ่บนพื้นที่ 5 ไร่ ของตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี คุณเดียวก่อร่างสร้างรั้ว
เพื่อเป็นบ้านหลังน้อยสำหรับเลี้ยงกระต่ายโดยเฉพาะ เกิดจากความชอบ ด้วยความที่เราเป็นคนชอบท่องเที่ยว ชอบเที่ยวป่า ชอบหาอะไรทำเวลาว่าง เลยอยากจะมีสถานที่สักแห่งในต่างจังหวัด
แล้วลองทำไร่ ทำสวน แต่เราเองยังต้องทำงานที่กรุงเทพฯ อยู่ ต้องไปๆ มาๆ จึงเลือกปลูกพืชที่ไม่ต้องดูแลมาก ให้เทวดาเลี้ยงได้ เราก็ได้คำตอบว่าต้องปลูกไผ่ แต่พอผ่านไปสัก 5 เดือน เราเริ่มกลายเป็นคนมีเวลาว่าง
ไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว
คุณเดียว เล่าต่อว่า พอเริ่มมีเวลาว่างเธอจึงท่องโลกอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นประจำ จนในที่สุด คุณเดียวก็ต้องกลับมาหาเพื่อนที่แท้จริง สัมผัสจับต้องได้ และสวมกอดให้ได้ชื่นใจ สุดท้ายมาลงตัวที่
"กระต่าย" เพราะเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างน่ารัก น่ากอด กินน้อย และไม่ส่งเสียงดังรบกวน คุณเดียวตระเวนตามฟาร์มต่างๆ ไปทำความรู้จักกับกระต่ายก่อน หาข้อมูลไปเรื่อย ทั้งในเว็บไซต์ไทย
เว็บไซต์ต่างประเทศ ดูว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้าง วิธีการดูแล การรักษาพยาบาล ศึกษาหมด จนได้ฮอลแลนด์ ลอป มาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น แรกๆ เลี้ยงอยู่ 3-4 ตัว ไม่ได้คิดถึงตลาด หรือจะเพาะพันธุ์ขายเลย
เราคิดแค่เพียงว่า จะทำอย่างไร ให้เขาอยู่รอดและมีความสุขความสุขและความเพลิดเพลินในการเลี้ยงกระต่ายของคุณเดียว ส่งผลให้มีกระต่ายน่าเอ็นดูทยอยเข้ามา
นี่คือตัวอย่างของคนที่สร้างธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่มีคนเข้าไปอ่านมากกว่า ล้านครั้ง เป็นธุรกิจที่ กำลังมาแรงในยุคนี้ ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ผ่านหน้าเวบไซต์ชีวิตไม่ต้องเร่งรีบเข้างานเป็นเวลา ดูแล้วน่าจะเป็นชีวิตที่มีความสุขตรงใจใครอีกหลายๆคน
หากคุณมีไอเดียดีไม่ควรมองข้าง ธุรกิจบนโลกออนไลน์
5/11/2011
ทำแชมพู ยาสระผม
ช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ข้าวของอะไรก็แพงมากๆ น้ำมันก็ขึ้น ของกินของใช้ก็แพง ของใช้ประจำวันอย่าง แชมพู ยาสระผม เราสามารถทำใช้เองได้ไม่ยาก ลดค่าใช้หรือจะทำขายก็ได้ ยิ่งช่วงนี้กระแสความนิยม แชมพูสมุนไพร ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งจากผู้ที่ห่วงใยสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้ที่ต้องการหาทางเลือกใหม่ๆ ในการใช้สินค้าประเภทนี้
ขอบคุณภาพจากpremium.tarad.com
ส่วนผสม
หัวแชมพู 8000
ผง ฟอง
ผง ข้น
สีแชมพู เช่น สีเขียว ฟ้า
กลิ่นแชมพู เช่น กลิ่นคาโอ
น้ำ กลั่น
มะกรูด
ว่าน หาง จระเข้
ลาโนลีน
ขวดสำหรับวใส่แชมพู
วิธีการทำแชมพู สระผม
1.นำมะกรูดผ่าซีกแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ส่วนว่านหางจระเข้ก็ปอกเปลีอก เอาแต่เนื้อของว่านหางจระเข้มาแล้วบดให้ละเอียดนั้นเอาแต่น้ำเตรียมน้ำไว้ประมาณ1 ลิตร จากนั้นก็เทผงฟองผสมลงไปคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
2.ขั้นต่อมาเมื่อคนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้เติมหัวแชมพูลงไปเสร็จแล้วก็คนให้เข้ากัน ให้นำลาโนลีนมาละลายกับน้ำร้อน จากนั้นเทลงไปในส่วนผสมทั้งหมด แล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3.ให้เติมกลิ่น (กลิ่นคาโอ) และสี (สีเขียว) ที่เตรียมไว้ นำน้ำว่านหางจระเข้และน้ำมะกรูดที่นั้นไว้แล้วเติมลงไปคนให้เข้ากัน
4.จากนั้นก็ค่อยๆ เทผงข้นลงไปในส่วนผสมทั้งหมด คนไปเรื่อยๆจนแชมพูเกิดความเข้มข้น หลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ1 คืน จึงค่อยนำไปบรรจุในขวด
การทำแชมพูใช้เอง ผู้ผลิตสามารถดัดแปลงสมุนไพรที่จะใส่ลงไปเองได้ เพราะปัจจุบันหมุนไพรมีอยู่มากมาย แล้วแต่ประใยชน์
สรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด
ขิง (Ginger) : แก้ผมรวง ทำให้เส้นผมเกิดใหม่ได้ดีขึ้น
ตะไคร้ (Lemongrass) : แก้ผมแตกปลาย ขจัดรังแค ทำให้ผมดก ดำ
มะกรูด (Kaffir Lime) : ทำให้ผมดกดำ นิ่มสลวย ขจัดรังแค แก้ผมร่วง
วานหางจระเข้ (ALOe vera): ท่าให้ผมลื่น หวีง่าย นุ่มสลวยรักษาแผลบนหนังศีรษะ
การลงทุนไม่เกีน 5,000 บาท
ต้นทุน 15 บาทขึ้นไป/ชิ้น
0 รายได้ : ราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 35 บาทขึ้นไป แล้วแต่
ปัจจุบันแชมพูที่มีอยู่ในท้องตลาด พบว่าสารทำความสะอาดที่ถูก
ผสมในแชมพูเกือบทุกยี่ห้อ ส่วนใหญ่เป็นสารเคมีที่มีฤทธี์ชะล้างอย่างแรง
และมีความเป็นด่างสูง เช่น โซเดียม ลอริ่ล ซัลเฟต (เอสแอลเอส) ซึ่งให้
ฟองได้มาก
นอกจากนั้น แชมพูบางชนิด หรีอใษน้ำยาปรับสภาพผมส่วนใหญ่
ที่มีอยู่ในท้องดลาด ยังนิยมใส่สารเคลือบผม เช่น ไซเมทธิโคน (เป็ษสาร
พวกซิลิโคนชนิดหนึ่ง) ซึ่งจะทำให้อดตันรูขมขน และตกค้างสะสมทำให้
เส้นผมทำหน้าที่ผีดปกติ ก่อให้เกิดอาการผมร่วง เกิดความผิดปกติของ
เซลล์ผม และหนังศีรษะได้เมื่อใช้ในระยะยาว
แชมพูที่ดีที่ได้มาตรฐานควรจะมีการปรับพีเอชให้เป็นกลางเพื่อให้
ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ ควรมีิ สารเติมสารต้านเชื้อจุลีนทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ
เพราะสารสกัดสมุนไพร หรือสมุนไพรสด เชื้อจุลินทรึย์มักจะเจริญเติบโดได้
ง่าย หากใช้แชมพูสมุนไพรที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรจาน อาจ
มีปัญหาคันหนังศีรษะ ผมร่วงได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการปนเปื้อนของ
เชื้อจุลินทรีย์จากสมุนไพร
มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย
แชมพูจัดเป็นเครื่องสำอางประเภทหนึ่ง ดังนั้นจะต้องมีคุณลักษณะทั่วไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง : ข้ออำหนดทั่วไป(มอก. 152-2539) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแชมพู (มอก.162-2541)
ขอบคุณภาพจากpremium.tarad.com
ส่วนผสม
หัวแชมพู 8000
ผง ฟอง
ผง ข้น
สีแชมพู เช่น สีเขียว ฟ้า
กลิ่นแชมพู เช่น กลิ่นคาโอ
น้ำ กลั่น
มะกรูด
ว่าน หาง จระเข้
ลาโนลีน
ขวดสำหรับวใส่แชมพู
วิธีการทำแชมพู สระผม
1.นำมะกรูดผ่าซีกแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ส่วนว่านหางจระเข้ก็ปอกเปลีอก เอาแต่เนื้อของว่านหางจระเข้มาแล้วบดให้ละเอียดนั้นเอาแต่น้ำเตรียมน้ำไว้ประมาณ1 ลิตร จากนั้นก็เทผงฟองผสมลงไปคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
2.ขั้นต่อมาเมื่อคนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้เติมหัวแชมพูลงไปเสร็จแล้วก็คนให้เข้ากัน ให้นำลาโนลีนมาละลายกับน้ำร้อน จากนั้นเทลงไปในส่วนผสมทั้งหมด แล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3.ให้เติมกลิ่น (กลิ่นคาโอ) และสี (สีเขียว) ที่เตรียมไว้ นำน้ำว่านหางจระเข้และน้ำมะกรูดที่นั้นไว้แล้วเติมลงไปคนให้เข้ากัน
4.จากนั้นก็ค่อยๆ เทผงข้นลงไปในส่วนผสมทั้งหมด คนไปเรื่อยๆจนแชมพูเกิดความเข้มข้น หลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ1 คืน จึงค่อยนำไปบรรจุในขวด
การทำแชมพูใช้เอง ผู้ผลิตสามารถดัดแปลงสมุนไพรที่จะใส่ลงไปเองได้ เพราะปัจจุบันหมุนไพรมีอยู่มากมาย แล้วแต่ประใยชน์
สรรพคุณของสมุนไพรแต่ละชนิด
ขิง (Ginger) : แก้ผมรวง ทำให้เส้นผมเกิดใหม่ได้ดีขึ้น
ตะไคร้ (Lemongrass) : แก้ผมแตกปลาย ขจัดรังแค ทำให้ผมดก ดำ
มะกรูด (Kaffir Lime) : ทำให้ผมดกดำ นิ่มสลวย ขจัดรังแค แก้ผมร่วง
วานหางจระเข้ (ALOe vera): ท่าให้ผมลื่น หวีง่าย นุ่มสลวยรักษาแผลบนหนังศีรษะ
การลงทุนไม่เกีน 5,000 บาท
ต้นทุน 15 บาทขึ้นไป/ชิ้น
0 รายได้ : ราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 35 บาทขึ้นไป แล้วแต่
ปัจจุบันแชมพูที่มีอยู่ในท้องตลาด พบว่าสารทำความสะอาดที่ถูก
ผสมในแชมพูเกือบทุกยี่ห้อ ส่วนใหญ่เป็นสารเคมีที่มีฤทธี์ชะล้างอย่างแรง
และมีความเป็นด่างสูง เช่น โซเดียม ลอริ่ล ซัลเฟต (เอสแอลเอส) ซึ่งให้
ฟองได้มาก
นอกจากนั้น แชมพูบางชนิด หรีอใษน้ำยาปรับสภาพผมส่วนใหญ่
ที่มีอยู่ในท้องดลาด ยังนิยมใส่สารเคลือบผม เช่น ไซเมทธิโคน (เป็ษสาร
พวกซิลิโคนชนิดหนึ่ง) ซึ่งจะทำให้อดตันรูขมขน และตกค้างสะสมทำให้
เส้นผมทำหน้าที่ผีดปกติ ก่อให้เกิดอาการผมร่วง เกิดความผิดปกติของ
เซลล์ผม และหนังศีรษะได้เมื่อใช้ในระยะยาว
แชมพูที่ดีที่ได้มาตรฐานควรจะมีการปรับพีเอชให้เป็นกลางเพื่อให้
ไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ ควรมีิ สารเติมสารต้านเชื้อจุลีนทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ
เพราะสารสกัดสมุนไพร หรือสมุนไพรสด เชื้อจุลินทรึย์มักจะเจริญเติบโดได้
ง่าย หากใช้แชมพูสมุนไพรที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรจาน อาจ
มีปัญหาคันหนังศีรษะ ผมร่วงได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการปนเปื้อนของ
เชื้อจุลินทรีย์จากสมุนไพร
มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย
แชมพูจัดเป็นเครื่องสำอางประเภทหนึ่ง ดังนั้นจะต้องมีคุณลักษณะทั่วไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง : ข้ออำหนดทั่วไป(มอก. 152-2539) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแชมพู (มอก.162-2541)
Labels:
ทำแชมพู ยาสระผม,
วิธีทำแชมพู ยาสระผม
5/10/2011
ธุรกิจความงามและสปา
ธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามและธุรกิจสปานั้น มีแนวโน้ม อัตราการขยายตัวที่ต่อเนื่องในแต่ละปี การใช้ชีวิตประจำวันในทุกวันนี้ บุคลิกเป็นเรื่องที่ต้องเอาใจใส่ เพราะ คนเราเหนื่อยเครียดมาจากการทำงานในแต่ละวัน
การดูแลเอาใจใส่ ร่างกายจากภายนอกจึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ ถึงแม้ว่า ธุรกิจความงาน และสปา จะมีการแข่งขันสูง แต่เป็นธุรกิจนี้ ก็ยังเป้นที่ต้องการของคนเป้นอย่างมาก ดังนั้นธุรกิจความงาม และสปาจึงที่อยู่คู่กับคนเรา
ไปอีกนาน
ปัจจุบันนี้มีแฟรนไชส์เกี่ยวกับความงาม มากมายเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ คงมีหลายๆคนที่ฝันว่าอยากจะเปิดร้านสปาที่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับความงามควบคู่กันไปด้วย วันนี้จึงอยากจะเสนอ
ศูนย์สุขภาพ ความงามและสปาสมาร์ท แบงก์ (Spa Smart Bank) เป็นศูนย์สุขภาพ ความงาม และ สปา ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540 เป็นเวลากว่า 10 ปี ที่เราได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในวงการธุรกิจ เสริมหล่อ แห่งแรก แห่งเดียว แห่งเมืองไทย ในปัจจุบัน
จึงทำให้มั่นใจในประสบการณ์ได้ว่า มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจความงามเป็นอย่างดี
นโยบาย
สมาร์ท แบงก์ มีความตั้งมั่น ในการขยายการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการ และให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง เราจึงได้ พัฒนาคุณภาพให้บริการ ตลอดจนมุ่งเน้นการขยายสาขา ศูนย์สุขภาพ ความงาม และสปา ให้ทั่วไทย
ตารางค่าใช้จ่าย
หัวข้อ ค่าใช้จ่าย
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า (ค่าแฟรนไชส์) 100,000
ค่าตกแต่งสถานที่ 200,000
ค่าอุปกรณ์เครื่องใช้ 150,000
ค่าอุปกรณ์แสดงสินค้า 50,000
สต๊อกสินค้า 300,000
สนใจธุรกิจ ติดต่อ ศูนย์สุขภาพ ความงาม และสปาสมาร์ท แบงก์(Spa Smart Bank)
ที่อยู่189 ถ.รัชดาภิเษก-ท่าพระ ซอย12
บุคคโล ธนบุรี (ใกล้เดอะมอล์ลท่าพระ)
กรุงเทพมหานคร 10600 โทรศัพท์ 0-2476-7776, 0-1490-0777
การดูแลเอาใจใส่ ร่างกายจากภายนอกจึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ ถึงแม้ว่า ธุรกิจความงาน และสปา จะมีการแข่งขันสูง แต่เป็นธุรกิจนี้ ก็ยังเป้นที่ต้องการของคนเป้นอย่างมาก ดังนั้นธุรกิจความงาม และสปาจึงที่อยู่คู่กับคนเรา
ไปอีกนาน
ปัจจุบันนี้มีแฟรนไชส์เกี่ยวกับความงาม มากมายเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ คงมีหลายๆคนที่ฝันว่าอยากจะเปิดร้านสปาที่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับความงามควบคู่กันไปด้วย วันนี้จึงอยากจะเสนอ
ศูนย์สุขภาพ ความงามและสปาสมาร์ท แบงก์ (Spa Smart Bank) เป็นศูนย์สุขภาพ ความงาม และ สปา ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2540 เป็นเวลากว่า 10 ปี ที่เราได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในวงการธุรกิจ เสริมหล่อ แห่งแรก แห่งเดียว แห่งเมืองไทย ในปัจจุบัน
จึงทำให้มั่นใจในประสบการณ์ได้ว่า มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจความงามเป็นอย่างดี
นโยบาย
สมาร์ท แบงก์ มีความตั้งมั่น ในการขยายการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการ และให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง เราจึงได้ พัฒนาคุณภาพให้บริการ ตลอดจนมุ่งเน้นการขยายสาขา ศูนย์สุขภาพ ความงาม และสปา ให้ทั่วไทย
ตารางค่าใช้จ่าย
หัวข้อ ค่าใช้จ่าย
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า (ค่าแฟรนไชส์) 100,000
ค่าตกแต่งสถานที่ 200,000
ค่าอุปกรณ์เครื่องใช้ 150,000
ค่าอุปกรณ์แสดงสินค้า 50,000
สต๊อกสินค้า 300,000
สนใจธุรกิจ ติดต่อ ศูนย์สุขภาพ ความงาม และสปาสมาร์ท แบงก์(Spa Smart Bank)
ที่อยู่189 ถ.รัชดาภิเษก-ท่าพระ ซอย12
บุคคโล ธนบุรี (ใกล้เดอะมอล์ลท่าพระ)
กรุงเทพมหานคร 10600 โทรศัพท์ 0-2476-7776, 0-1490-0777
Labels:
ธุรกิจความงามและสปา
5/06/2011
ทำขนมทองพับขาย
ในช่วงเวลาเศษกิจเป็นพิษพอย่างนี้ หลายคนมองหาอาชีพจะมาช่วยเ์พิ่มรายได้ให้ทันกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกวัน
บางคนบอกว่า อย่าว่าแต่อาชีพเสริมอะไรนี่เลยอาชีพหลักยังไม่มีเลย ได้แก่นั่งมองใบไม้ร่วงไปวัน ๆ
วันนี้มีช่องทางการทำมาหากินมาฝาก ถึงจะไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จ ประเภทฉีกซองใส่น้ำเดือดรอ 3 นาที อะไรทำนองนั้น แต่เชื่อว่า หากใครได้นำไปคิด ไปขยายผล ไปต่อยอด เชื่อว่าต้องพบช่องทางแน่นอน ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ หันมาทำขนมพบด้วยเครื่องไฟฟ้า สะดวกรวดเร็ว สร้างเงิน สร้างงานด้วยวิธีง่ายๆ้ิ มีหลายคนทีสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ จากขนมทองพับ ทองม้วนได้กันเลยทีเดียว
ขนมทองพับ เป็นขนมไทยซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เป็นขนมที่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาล ไข่ไก่
เกลือ วิธีการทำตัวแป้งนั้นง่าย แต่จะยากตรงการ ทำให้ตัวแป้งสุก แต่เดิมทำกับเตาถ่าน ในปัจจุบันอาจจะ
เตาไฟฟ้าซึ่งไม่ยุ่งยากในการเตรียมอุปกรณไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิง หรือการควบคุมความร้อนของเตา แต่สำหรับเครื่องทำขนมทองพับแบบไฟฟ้า ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะทำงานด้วยไฟฟ้า
ภาพจาก:http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=16686.0
เครึ่องทำขนมทองพับที่ว่า เป็นเครืองที่ทำงานด้วยไฟฟ้า (คล้ายเครื่องทำแซนด์วิช) การใช้งานสะดวกรวดเร็ว
ก่อนที่จะพูดถึงตัวเครื่อง จะว่าในเรื่องของขนมทองพับก่อน ตัวขนมทองพับก็คือ ขนมทองม้วนนั่นเอง
เพียงแต่ลักษณะจะพับไปมาไม่ได้ม้วน ๆ เป็นทองม้วนเท่านั้นเอง
ข้อมูลเฉพาะเครื่องทำขนมทองพับ
1.ตัวเครื่องทำด้วยสเตนเลสอย่างดี ขนาดเครื่องกว้าง 3๐ เซนติเมตร x ยาว 6๐ เซนติเมตร x สูง 18 เซนติเมตร พร้อมหูหิ้วสำหรับยกเคลื่อนย้ายได้ง่าย
2.มีเตาไฟฟ้าพร้อมแม่พิมพ์ท่าขนมทองพับจำนวน 3 ชุด สามารถทำขนมทองพับได้พร้อมกันทั้ง 3 เตา ขนาดกำลัื ผลิต 180-250 ชิ้น/ชั่วโมง
3.มีเบรกเกอร์ไฟฟ้า ขนาด 10 A หลอด ไฟฟ้าแสดงการทำงานของเครื่อง และปุ่มปรับความร้อนของเตา สามารถควบคุมความร้อนของเตาได้
ตามความต้องการ สามารถใช้กับไฟฟ้าบ้านเรือน 220 โวลต์/2 สาย/50 ไซเกิล ใช้กำลังไฟ ขนาด 500-9๐๐ วัตต์
4.เครื่องนี้ประหยัดไฟ โดยเครื่องจะกินไม่เกินชั่วโมงละ 2.50 บาท
5.เครึ่องใช้งานง่าย สามารถทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่และใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
“เครื่องนี้สามารถสร้างอาชีพเสริม อาชีพหลัก หรืองานอดิเรกก็ได้ มีบางคนมาซื้อไป 3 เครื่อง แล้วทำส่งครั้งละ 300-500 ชิ้น นำไปส่งให้ร้านค้าแพ็กอีกที คือ
ส่งเฉพาะตัวขนม แต่จะได้ราคาที่ถูกลง หรือจะส่งตามร้านเป็นแพ็กไปถุงละ 8-10 ชิ้น ส่ง 8 บาท (ไปขายปลีก 10 บาท”)
ราคาเครื่อง 9,๐๐๐ บาท ซึ่งกำไรขนมทองพับมากกว่์า 150 %
สูตรขนมทองพับ(ทองม้วน)รสหวาน
ส่วนผสม
1. แป้งสาลี (ตราว่าว) 1 กิโลกรัม
2. น้ำตาลทราย 1 กิโลวรัม
3. เกลือป่น 2 ช้อนชา
4. ไข่ไก่ทั้งฟอง 4 ฟอง
5. กะทิสด 1.3 กิโลกรัม(ใช้มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม)
6. งาดำ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำแป้งสาล น้ำตาลทหย เกลือป่น งาดำใส่ลงไปในภาชนะชนะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. ใส่หัวกะทิลงไปแล้วตามด้วยไข่ไก่ทั้งหมด ตีให้เข้ากัน
3. นำแป้งที่ผสมแล้วหยอดในพิมพ์ที่ร้อนครั้งละ 1 ช้อน
สูตรขนมทองพับ(ทองม้วน)รสเค็ม
ส่วนผสม
1. แป้งสาลี (ตราว่าว) 1 กิโลกรัม
2. น้ำตาลทราย 800 กรัม
3. เกลือปน 2 ช้อนโต๊ะ
4. ไข่ไก่ทั้งฟอง 4 ฟอง
5. หัวกะทิ 1.3 กิโลกรัม(ใช้มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม)
6. พริกไทยป่น 1ช้อนชา
7. ต้นหอม ผักชีหั่นละเอียด เล็กน้อย
วิธีทำ
1. นำแป้งสาลี น้ำตาลทราย เกลือป่น งาดำใส่ลงไปในภาชนะชนะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. ใส่หัวกะทิลงไปแล้วตามด้วยไข่ไก่ทั้งหมดตีให้เข้ากัน
3. นำแป้งที่ผสมแล้วหยอดใส่พิมพ์ที่ร้อนครั้งละ 1 ช้อน
สูตรขนมทองพับรสฟักทอง
ส่วนผสม
1.แป้งสาลี (ตราว่าว) 1 กิโลกรัม
2.น้ำตาลทราย1 กิโลกรัม
3.เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
4.ไข่ไก่ทั้งฟอง 4 ฟอง
5. หัวกะทิ 1.2 กิโลกรัม(ใช้มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม)
6.ฟักทอง (นึ่งสุก)พอประมาณ
วิธีทำ
1. นำแป้งกับน้ำตาล คนคลุกเคล้าเข้าด้วย
2. ใส่กะทิลงไป ตามด้วยไข่ไก่และเกลือปน
3. คนให้เข้ากันฟักทองนึ่งบดละเอียดล้ใไป คนให้เข้า
4. นำส่วนผสมทั้งหมดหยอดลงพิมพ์
สนใจสั่งซื้อได้ที่ 50/465 ซ.เมืองทองธานี ซี3
หมู่6 ถ.แจ้งวัฒนะต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
โทร 503-3292, 503-3725-6
**** ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามเวลา
บางคนบอกว่า อย่าว่าแต่อาชีพเสริมอะไรนี่เลยอาชีพหลักยังไม่มีเลย ได้แก่นั่งมองใบไม้ร่วงไปวัน ๆ
วันนี้มีช่องทางการทำมาหากินมาฝาก ถึงจะไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จ ประเภทฉีกซองใส่น้ำเดือดรอ 3 นาที อะไรทำนองนั้น แต่เชื่อว่า หากใครได้นำไปคิด ไปขยายผล ไปต่อยอด เชื่อว่าต้องพบช่องทางแน่นอน ใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ หันมาทำขนมพบด้วยเครื่องไฟฟ้า สะดวกรวดเร็ว สร้างเงิน สร้างงานด้วยวิธีง่ายๆ้ิ มีหลายคนทีสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ จากขนมทองพับ ทองม้วนได้กันเลยทีเดียว
ขนมทองพับ เป็นขนมไทยซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เป็นขนมที่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาล ไข่ไก่
เกลือ วิธีการทำตัวแป้งนั้นง่าย แต่จะยากตรงการ ทำให้ตัวแป้งสุก แต่เดิมทำกับเตาถ่าน ในปัจจุบันอาจจะ
เตาไฟฟ้าซึ่งไม่ยุ่งยากในการเตรียมอุปกรณไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิง หรือการควบคุมความร้อนของเตา แต่สำหรับเครื่องทำขนมทองพับแบบไฟฟ้า ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะทำงานด้วยไฟฟ้า
ภาพจาก:http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=16686.0
เครึ่องทำขนมทองพับที่ว่า เป็นเครืองที่ทำงานด้วยไฟฟ้า (คล้ายเครื่องทำแซนด์วิช) การใช้งานสะดวกรวดเร็ว
ก่อนที่จะพูดถึงตัวเครื่อง จะว่าในเรื่องของขนมทองพับก่อน ตัวขนมทองพับก็คือ ขนมทองม้วนนั่นเอง
เพียงแต่ลักษณะจะพับไปมาไม่ได้ม้วน ๆ เป็นทองม้วนเท่านั้นเอง
ข้อมูลเฉพาะเครื่องทำขนมทองพับ
1.ตัวเครื่องทำด้วยสเตนเลสอย่างดี ขนาดเครื่องกว้าง 3๐ เซนติเมตร x ยาว 6๐ เซนติเมตร x สูง 18 เซนติเมตร พร้อมหูหิ้วสำหรับยกเคลื่อนย้ายได้ง่าย
2.มีเตาไฟฟ้าพร้อมแม่พิมพ์ท่าขนมทองพับจำนวน 3 ชุด สามารถทำขนมทองพับได้พร้อมกันทั้ง 3 เตา ขนาดกำลัื ผลิต 180-250 ชิ้น/ชั่วโมง
3.มีเบรกเกอร์ไฟฟ้า ขนาด 10 A หลอด ไฟฟ้าแสดงการทำงานของเครื่อง และปุ่มปรับความร้อนของเตา สามารถควบคุมความร้อนของเตาได้
ตามความต้องการ สามารถใช้กับไฟฟ้าบ้านเรือน 220 โวลต์/2 สาย/50 ไซเกิล ใช้กำลังไฟ ขนาด 500-9๐๐ วัตต์
4.เครื่องนี้ประหยัดไฟ โดยเครื่องจะกินไม่เกินชั่วโมงละ 2.50 บาท
5.เครึ่องใช้งานง่าย สามารถทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่และใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
“เครื่องนี้สามารถสร้างอาชีพเสริม อาชีพหลัก หรืองานอดิเรกก็ได้ มีบางคนมาซื้อไป 3 เครื่อง แล้วทำส่งครั้งละ 300-500 ชิ้น นำไปส่งให้ร้านค้าแพ็กอีกที คือ
ส่งเฉพาะตัวขนม แต่จะได้ราคาที่ถูกลง หรือจะส่งตามร้านเป็นแพ็กไปถุงละ 8-10 ชิ้น ส่ง 8 บาท (ไปขายปลีก 10 บาท”)
ราคาเครื่อง 9,๐๐๐ บาท ซึ่งกำไรขนมทองพับมากกว่์า 150 %
สูตรขนมทองพับ(ทองม้วน)รสหวาน
ส่วนผสม
1. แป้งสาลี (ตราว่าว) 1 กิโลกรัม
2. น้ำตาลทราย 1 กิโลวรัม
3. เกลือป่น 2 ช้อนชา
4. ไข่ไก่ทั้งฟอง 4 ฟอง
5. กะทิสด 1.3 กิโลกรัม(ใช้มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม)
6. งาดำ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำแป้งสาล น้ำตาลทหย เกลือป่น งาดำใส่ลงไปในภาชนะชนะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. ใส่หัวกะทิลงไปแล้วตามด้วยไข่ไก่ทั้งหมด ตีให้เข้ากัน
3. นำแป้งที่ผสมแล้วหยอดในพิมพ์ที่ร้อนครั้งละ 1 ช้อน
สูตรขนมทองพับ(ทองม้วน)รสเค็ม
ส่วนผสม
1. แป้งสาลี (ตราว่าว) 1 กิโลกรัม
2. น้ำตาลทราย 800 กรัม
3. เกลือปน 2 ช้อนโต๊ะ
4. ไข่ไก่ทั้งฟอง 4 ฟอง
5. หัวกะทิ 1.3 กิโลกรัม(ใช้มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม)
6. พริกไทยป่น 1ช้อนชา
7. ต้นหอม ผักชีหั่นละเอียด เล็กน้อย
วิธีทำ
1. นำแป้งสาลี น้ำตาลทราย เกลือป่น งาดำใส่ลงไปในภาชนะชนะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. ใส่หัวกะทิลงไปแล้วตามด้วยไข่ไก่ทั้งหมดตีให้เข้ากัน
3. นำแป้งที่ผสมแล้วหยอดใส่พิมพ์ที่ร้อนครั้งละ 1 ช้อน
สูตรขนมทองพับรสฟักทอง
ส่วนผสม
1.แป้งสาลี (ตราว่าว) 1 กิโลกรัม
2.น้ำตาลทราย1 กิโลกรัม
3.เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
4.ไข่ไก่ทั้งฟอง 4 ฟอง
5. หัวกะทิ 1.2 กิโลกรัม(ใช้มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม)
6.ฟักทอง (นึ่งสุก)พอประมาณ
วิธีทำ
1. นำแป้งกับน้ำตาล คนคลุกเคล้าเข้าด้วย
2. ใส่กะทิลงไป ตามด้วยไข่ไก่และเกลือปน
3. คนให้เข้ากันฟักทองนึ่งบดละเอียดล้ใไป คนให้เข้า
4. นำส่วนผสมทั้งหมดหยอดลงพิมพ์
สนใจสั่งซื้อได้ที่ 50/465 ซ.เมืองทองธานี ซี3
หมู่6 ถ.แจ้งวัฒนะต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
โทร 503-3292, 503-3725-6
**** ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามเวลา
Labels:
ขนมทองม้วน,
ทำขนมทองพับขาย,
วิธิทำขนมทองม้วน,
วิธีทำขนมทองพับ
Subscribe to:
Posts (Atom)